ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

catagory icon image | 
TourismThailand, 13 ม.ค. 2025
ถูกใจ

⛰️🌳🍁 ภูหลวง ... สวนสวรรค์แดนอีสาน 🍁🌳⛰️ 
☘️ พาไปเดินป่าที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน “ภูหลวง” อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย  
🌿 ทริปนี้เป็นการเดินป่าระยะสั้นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ระยะทางเดิน 1.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินแบบไม่รีบร้อนประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและค้างแรม ความสวยงามของธรรมชาติบนเส้นทางนี้ ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสวรรค์ 
⏱️ ฤดูกาลที่เหมาะกับการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติชมพรรณไม้บนภูหลวง คือ เดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม โดยช่วงปลายธันวาคม-กลางมกราคม จะได้ชมใบเมเปิ้ลสีแดง ช่วงมกราคม-มีนาคม เป็นช่วงที่กุหลาบแดงและกุหลาบขาวบานสะพรั่ง รวมทั้งกล้วยไม้ป่านานาชนิด  
✅ รีวิวนี้บัดดี้มีข้อมูลที่ควรทราบก่อนไปภูหลวง เช่น การเดินทาง การจองบ้านพักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ร้านอาหาร การเตรียมอุปกรณ์เดินป่า และข้อกำหนดต่าง ๆ  
✨ ตามมาทำความรู้จัก “ภูหลวง” ก่อนวางแผนเดินทางท่องเที่ยวกันค่ะ

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“ภูหลวง” มีความหมายว่า “ภูเขาที่สูงใหญ่” มีพื้นที่ประมาณ 530,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูหลวง อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ และอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517

ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงชัน มีความสูง 400 -1,571 เมตร จากระดับน้ำทะเล เทือกเขาด้านตะวันออกมีที่ราบบนสันเขา (หลังแป) ส่วนด้านตะวันตกเป็นภูเขาสูงซันสลับซับซ้อนเป็นลูกคลื่น ส่วนภูเขาทางทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันลาดลงสู่ทิศตะวันตก เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเลยและแม่น้ำป่าสัก

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบสูง จึงมีอากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น ๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ย 24 องศาเซลเชียส ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ส่วนฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย 4-6 องศาเซลเซียส

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตั้งอยู่ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 

พิกัดที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง : https://maps.app.goo.gl/z7G7LiUJeb5ZHdBr7 

จุดท่องเที่ยวหลักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คือ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ซึ่งตั้งอยู่กลางป่า ห่างจากที่ทำการเขตฯ ประมาณ 14 กิโลเมตร 

พิกัดหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา : https://maps.app.goo.gl/3cZdZvS7YLaooMVF7

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้ที่ 

Follow news and inquire about various information about Phu Luang Wildlife Sanctuary at Facebook : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง-จังหวัดเลย 
☎️ 06 4024 0743

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

การเดินทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 

จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 203 (ภูเรือ-เลย) ใช้เส้นทางฝั่งมุ่งหน้าไปตัวเมืองเลย ประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงสามแยกโรงเรียนบ้านสานตม ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยด้านข้างโรงเรียน คือ ทางหลวงชนบท ลย. 2023 ตรงไปประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 

นักท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ณ ด่านตรวจบริเวณหน้าที่ทำการเขตฯ 

อัตราค่าธรรมเนียมเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท รถยนต์สี่ล้อ 60 บาท รถยนต์หกล้อ 100 บาท จักรยานยนต์ 30 บาท

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ด่านจะเปิดให้รถขึ้นไปบนภูหลวงได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และด่านจะปิดไม่ให้รถขึ้นลงภูหลวงในเวลา 16.00 น. ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากอันตรายของสัตว์ป่าที่ออกหากินในช่วงเวลาเย็นจนถึงรุ่งเช้า 

จากด่านหน้าที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ขับรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของภูหลวง 

ตั้งแต่ปากทางถนนสายหลักจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ลักษณะถนนเป็นถนนลาดยางรถสวนกันสองเลน ช่วงจากด่านไปจนถึงโคกนกกระบาเป็นทางขึ้นเขา มีโค้งบ้าง แต่ไม่ค่อยชัน รถยนต์ทุกชนิดสามารถเดินทางได้ แนะนำไม่ควรขับรถเร็ว เพราะอาจมีสัตว์ป่าข้ามถนนได้

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ลานจอดรถกว้างขวางบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมกุหลาบแดงบานอีกจุดหนึ่งด้วย

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา 

เมื่อเดินทางมาถึง แนะนำให้มาติดต่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ก่อน ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่พาเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นกลุ่ม ๆ ละไม่เกิน 10 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง มีบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยวสำหรับค้างแรมอยู่หลายหลัง ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา แต่ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์พักแรม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจากสัตว์ป่าในยามค่ำคืน 

ในกรณีต้องการค้างแรม ต้องสำรองบ้านพักล่วงหน้าในช่องทาง Message ของ Facebook page เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง-จังหวัดเลย 

รวมทั้งในกรณีที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวเดินป่าศึกษาธรรมชาติในเขตหน่วยพิทักษ์ป่าหน่วยอื่น ๆ แบบระยะไกล ก็ต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะส่งรายละเอียดขั้นตอนการขออนุญาตต่าง ๆ ให้ในช่องทาง Message ของ Facebook page หรือ โทร. 06 4024 0743 

ส่วนการเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า สามารถ walk in มาลงทะเบียนเที่ยวชมที่หน่วยพิทักษ์โคกนกกระบาได้เลย

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา มีร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เป็นอาหารตามสั่งแบบจานเดียว และมีเครื่องดื่มกับขนมขบเคี้ยวจำหน่าย และยังมีร้านกาแฟให้บริการด้วย ใครที่เดินป่ามาเหนื่อย ๆ แวะเติมความสดชื่นกันได้

 

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง ได้แก่ 
1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ ระยะทาง 1 กิโลเมตร 
2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร 
3. เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเสด็จ ระยะทาง 11.8 กิโลเมตร

พวกเราเลือกเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใจดีพาเดินชม แนะนำพืชพรรณต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ดีมาก ๆ

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ลักษณะเส้นทางเป็นทางราบเกือบตลอดทาง เดินผ่านป่าโปร่งที่มีต้นไม้ไม่สูงและทึบจนเกินไป แต่ไปเดินป่าช่วงฤดูหนาว แม้จะเจอแดดแต่อากาศก็เย็นสบาย

อุปกรณ์ที่ควรมีเมื่อเดินป่า ได้แก่ 
- หมวกกันแดด 
- เสื้อแขน กางเกงขายาว เพื่อป้องกันโดนกิ่งไม้ขีดข่วน 
- รองเท้าที่ดอกยางลึกกันลื่น กระชับข้อเท้า และใส่แล้วรู้สึกเดินสบาย 
- น้ำดื่ม 
- ยารักษาโรคประจำตัว 
- อุปกรณ์ถ่ายภาพ เช่น กล้องหรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติ

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

เริ่มเดินเข้าป่าได้ไม่ไกล เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ชี้ชวนให้ชมต้นไม้และดอกไม้ป่าหายากนานาชนิด เช่น 

“หญ้าขนตาช้าง” หรือ “แส้ม้าฮ่อ” (Dapsilanthus disjunctus (Mast.))

“กล้วยไม้ดิน” (Ground orchid or Spathoglottis) ดอกเล็ก ๆ สีสวยน่ารักมาก 

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“เอื้องสร้อยระย้า” (Otochilus fuscus Lindl.) เป็นกล้วยไม้ขึ้นอยู่ตามคบไม้ แต่ตอนที่ไปยังไม่ออกดอก 

“ข้าวตอกฤาษี” (Sphagnum spp.) เป็นพืชตระกูลมอสที่มีอายุหลายปี มักขึ้นปกคลุมดินและเปลือกไม้ ในบริเวณที่มีอากาศเย็นและความชื้นสูง 

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“ดอกหรีด” หรือ “กอลักษณา” (Gentiana nudicaulis Kurz subsp. Lakshnakarae (Kerr) Halda) พันธุ์ไม้หายาก ในประเทศไทยพบได้บนภูเขาสูงในภาคอีสาน เช่น ภูหลวง ภูกระดึง ภูหินร่องกล้า 

“เอื้องสำเภางาม” (Cymbidium insigne) กล้วยไม้ดินขนาดใหญ่ ในประเทศไทยพบได้ที่ภูหลวงและภูกระดึง 

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

เหง้าน้ำทิพย์ (Agapetes saxicola Craib) เป็นไม้พุ่มอิงอาศัย พบทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นตามคบไม้หรือก้อนหิน ในป่าดิบเขา ความสูง 1200–1500 เมตร

“รองเท้านารีอินทนนท์” (Paphiopedilum villosum (Lindl.) Stein) เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย พบตามป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตร ทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“เอื้องตาเหิน” (Dendrobium infundibulum) เป็นกล้วยไม้ชนิดหนึ่ง ดอกสีขาว ที่กลีบปากมีเส้นสีส้ม ดอกมีกลิ่นหอม ในประเทศไทยพบที่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน เลย และสงขลา

“เอื้องพลายงาม” (Pleione maculata Lindl.) เป็นกล้วยไม้ที่มักขึ้นตามซอกหิน พบในป่าดิบทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นกล้วยไม้หายาก

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“สิงโตขยุกขยุย” (Bulbophyllum dayanum Rchb.f.) เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย ขึ้นตามคบไม้ในป่าดิบชื้นและป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 500–1300 เมตร กลีบเลี้ยงสีเขียวอมน้ำตาลแดงหรือม่วง ขอบมีขนครุยสีเหลือง ในประเทศไทยทางภาคเหนือพบที่พิษณุโลก ภาคอีสานพบที่เลย ภาคตะวันออกพบที่ตราด ภาคใต้พบที่ระนองและกระบี่

“ก๊อกมอง” หรือ “สะเม็ก” (Agapetes lobbii C.B.Clarke) ไม้พุ่มอิงอาศัย เกาะตามลำต้นของต้นไม้ใหญ่ ดอกออกเป็นช่อยาว เมื่อดอกบานจะคว่ำลงสู่พื้นคล้ายรูประฆัง เป็นไม้หายาก พบได้ทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ขึ้นในป่าดิบเขาที่ค่อนข้างโปร่งและมีอากาศเย็นตลอดปี ที่ระดับความสูง 1,100 - 2,300 เมตร

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“หินนกกระบา” เป็นก้อนหินตามธรรมชาติที่ผ่านการกัดกร่อนของลม แดด และน้ำฝน จนมีรูปทรงคล้ายนกกระบา

“เอนอ้าขน” หรือ “โคลงเคลงหิน” (Osbeckia stellata Buch.-Ham. ex Ker Gawl. (Melastomataceae)) เป็น ไม้พุ่ม ดอกออกเป็นช่อ กลีบดอกสีม่วง เกสรสีเหลืองสด

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“กุหลาบขาว” หรือ “กุหลาบพันปีสีขาว” (Rhododendron ciliicalyx Franch.) ไม้พุ่ม ดอกสีขาว ในประเทศไทยพบทางภาคเหนือและภาคอีสาน ขึ้นตามป่าสนเขาหรือที่โล่งบนเขาหินปูน ที่ระดับความสูง 1,000-2,200 เมตร เช่น ภูหลวง ดอยอินทนนท์ เป็นต้น 

ตอนที่ไปดอกยังตูมอยู่ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าจะบานช่วงเดือนกุมภาพันธ์

รูปกุหลาบขาวที่บานแล้ว 

(ขอบคุณรูปจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ)

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

กล้วยไม้ตระกูลสิงโต ขึ้นปกคลุมเต็มก้อนหินขนาดใหญ่ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของภูหลวง 

ในรูปนี้มีทั้งเฟิร์นใบสีส้ม กล้วยไม้ตระกูลสิงโต และข้าวตอกฤาษี เป็นสีสันอันสวยงามของผืนป่า

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

สำหรับผู้หลงใหลในความงดงามของกล้วยไม้ป่า มาเดินชมธรรมชาติที่ภูหลวงรับรองว่าไม่ผิดหวัง

เมื่อเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติมาจนใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด จะพบกับดงเมเปิ้ล เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า บนภูหลวงใบเมเปิ้ลมักจะเป็นสีแดงช่วงปีใหม่เรื่อยไปจนกลางเดือนมกราคม 

“เมเปิ้ล” หรือ “ก่วมแดง” (Maple or Acer calcaratum Gagnep.) เป็นไม้ยืนต้น พบบนเขาสูงที่มีอากาศเย็นทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย เช่น เชียงใหม่ เลย เป็นต้น ในช่วงฤดูหนาวจะเปลี่ยนสีใบจากเขียวเป็นสีแดง หรือสีส้มอมแดง และจะผลัดใบร่วงสู่พื้นในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

ทางเดินในช่วงสุดท้ายจะเดินเลาะเลียบแนวหน้าผา

มีลานชมทิวทัศน์ มองเห็นภูเขาและผืนป่าเขียวขจี

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

“เรือนประทับแรมโคกนกกระบา” เมื่อเดินมาถึงที่นี่ แสดงว่าสิ้นสุดเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยันแล้ว 

เดินไปทางป้ายบอกทางออกอีกไม่ไกลจะไปเจอศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

ไฮไลต์เด่นบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโคกนกกระบา คือ ดงกุหลาบแดง บนภูหลวง กุหลาบแดงจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม

ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน
ภูหลวง...สวนสวรรค์แดนอีสาน

"กุหลาบแดง" หรือ "กุหลาบพันปีดอกแดง" (Rhododendron simsii Planch.) เป็นไม้พุ่ม ดอกสีแดงแกมส้ม ในประเทศไทยพบได้ทางภาคเหนือและภาคอีสาน ที่ระดับความสูง 1,000-2,200 เมตร เช่น ภูหลวง ดอยอินทนนท์ ดอยม่อนจอง เป็นต้น

การเดินศึกษาธรรมชาติ ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา เขตรักษาพันธุ์ป่าภูหลวง ใช้เวลาตั้งแต่ครึ่งวันจนถึงทั้งวัน แล้วแต่ว่าจะเลือกเดินเส้นไหน ปกติเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เริ่มเข้าพื้นที่ตั้งแต่ 08.30 น. และจะพยายามให้นักท่องเที่ยวกลับลงภูประมาณ 15.00-16.00 น. ฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรวางแผนการเดินทางให้ดี

คำแนะนำและข้อควรปฏิบัติในขณะการเดินป่า 
- ไม่เดินออกนอกเส้นทาง อาจได้รับอันตรายและพลัดหลงได้ 
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ 
- ไม่เด็ด ถอน ขีดเขียน หรือทำลายต้นไม้พืชพรรณธรรมชาติ 
- ไม่ทิ้งขยะตลอดเส้นทาง 
- ไม่ส่งเสียงดังรบกวนธรรมชาติและเพื่อนนักเดินป่าร่วมเส้นทาง 
- หากรู้สึกเหนื่อย หายใจหอบ หน้ามืด ให้หยุดพักร่างกาย จิบน้ำ จนรู้สึกดีขึ้นค่อยออกเดินต่อ 
.

separate line
0.00

  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%

คุณอาจจะสนใจสิ่งนี้