ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่อยู่บนเกาะและยังมีชุมชนรามัญ (มอญ) ที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 400 ปีได้อย่างดี ที่สำคัญบนเกาะนี้ไม่มีรถยนต์เลยสักคัน ทำให้ลดมลภาวะไปได้มาก อากาศก็ดี สูดหายใจได้เต็มปอด ทุกคนน่าจะพอทราบแล้ว เกาะที่ว่านี้ก็คือ “เกาะเกร็ด” ของเรานี่เอง
.
วันนี้จะพาทุกท่านเดินเที่ยวบนเกาะเกร็ด ได้ใช้พลังงานของเราอย่างแท้จริง รับรองได้ทั้งการออกกำลัง ได้อิ่มใจและอิ่มท้องแน่นอน โดยเส้นทางนี้จะขอตั้งชื่อว่า “เส้นทางลัดเลาะเกาะเกร็ด สัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชนรามัญ”
- วัดบางจาก
- วัดเสาธงทอง
- วัดไผ่ล้อม
- โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม
- ตลาดหมู่บ้านโอ่งอ่าง
- วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร
- ชิมเมนูอาหารท้องถิ่น
- วัดฉิมพลีสุทธาวาส
- วัดกลางเกร็ดวรวิหาร
เริ่มต้นจาก วัดบางจาก สร้างขึ้นในสมัยที่ชาวรามัญอพยพมาบริเวณปากเกร็ด-เกาะเกร็ด มีพื้นที่กว้าง สามารถจอดรถได้หลายคัน กิจกรรมที่นี่มีหลากหลาย สายมูห้ามพลาด มาสักการะท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ นำรถยนต์หรือเดินลอดท้องช้าง เข้าอุโบสถทรงไทยสีม่วง 2 ชั้น ขอพรหลวงพ่อหนุนดวง หลวงพ่อค้ำดวง เข้าวิหารพระเกจิชื่อดังจังหวัดนนทบุรี หลวงปู่บุญยัง จันทสาโร ก่อนเดินไปถึงด้านหลังวัด อย่าลืมร่วมกิจกรรม 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน พบน้องสุขใจที่ไหนให้ สแกนคิวอาร์โค้ดที่มาสคอต น้องสุขใจ เพื่อลุ้นรับของรางวัลมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ผ่านจากน้องสุขใจแล้วเดินต่อไปจนถึงท่าเรือข้ามฟาก จะพบกับสมเด็จพระพุทธมงคลชัย หรือหลวงพ่อโต องค์ใหญ่ หน้าตัก 19 เมตร สูง 27 เมตร และพญานาค 4 ตระกูล เตรียมข้ามฟักไปยังท่าเรือวัดเสาธงทอง เกาะเกร็ด เรือให้บริการตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ราคาคนละ 5 บาท วันธรรมดาราคาคนละ 10 บาท จ่ายเงินให้คนขับเรือได้เลย
เมื่อข้ามเรือมาก็ถึงวัดเสาธงทองเลย วัดนี้เป็นวัดรามัญเช่นกัน ชาวมอญเรียก “เพี้ยอะล้าด” แปลว่าวัดตะวันตก จุดไฮไลต์ของที่นี่ คือ เจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบ เจดีย์ทรงระฆัง และเจดีย์กลีบมะเฟืองที่สมบูรณ์ มีเพียงแห่งเดียวในโลก บริเวณหน้าวิหารมีต้นยางใหญ่อายุกว่า 200 ปี ขอพรสองกุมารผมจุก และเจ้าแม่ตะเคียน มีจุดบริการตำรวจท่องเที่ยวอยู่ใกล้ ๆ คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวด้วยนะคะ
ออกจากวัดเสาธงทอง เดินเลี้ยวขวาเลยไปอีกประมาณ 350 เมตร ถึง วัดไผ่ล้อม วัดนี้เป็นวัดรามัญเช่นกัน มีหงส์ทองขนาดใหญ่ 1 คู่ ตั้งอยู่หน้าอุโบสถ โดยชาวรามัญจัดทำเพื่อเป็นการระลึกถึงบ้านเกิดที่เมืองหงสาวดี หลังอุโบสถมีเจดีย์ชเวดากององค์จำลองให้สักการะ บริเวณหน้าวัดมีลานอเนกประสงค์ จัดชุดการแสดงพหุวัฒนธรรมระหว่างชาวไทย-พุทธ ไทย-รามัญ และไทย-มุสลิม ให้นักท่องเที่ยวได้ชม
ออกจากวัดไผ่ล้อม เดินเลี้ยวขาวไปอีกประมาณ 160 เมตร เยี่ยมชมโรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม เป็นแหล่งเรียนรู้การทำเครื่องปั้นดินเผ่าจากชาวรามัญโดยแท้ ที่สืบทอดงานฝีมือและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาจนถึงรุ่นที่ 5 แล้ว เตาเผาที่นี่ใช้มาตั้งแต่รุ่นที่ 1 มีการรักษาดูแล ซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง มาถึงที่นี่แล้วต้องลองลงมือปั้นดินด้วยตัวเอง ค่าใช้จ่ายคนละ 100 บาท และอย่าลืมเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาลายวิจิตร จะนำไปใช้งานหรือประดับตกแต่งบ้านก็สวยได้ไม่ซ้ำใคร
จากนั้นก็ได้เวลาชอปปิง ตลาดหมู่บ้านโอ่งอ่าง มีทุกอย่างให้เลือก ทั้งของกินอาหารคาว หวาน โดยเฉพาะขนมมงคล ขนมหวานโบราณที่นี่ขึ้นชื่อมาก หน้าตาน่ากิน ชื่อเพราะแถมอร่อยอีกด้วย มีทั้งดาราทอง เสน่ห์จันทร์ สัมปันนี ผกากรอง กุหลาบชาววัง ไข่ในรังทอง ทองเอก ช่อผกา ลูกชุบ ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ขนมตาล ขนมไข่ปลา และอีกมากมาย ที่พลาดไม่ได้เลยคือ ขนมหันตรา สูตรชาวมอญ นำไข่ขาวที่ทำเป็นฝอยแล้วมาโรยหน้า รสชาติคล้ายเม็ดขนุน นอกจากนี้ยังมีร้านขายเสื้อผ้า ต้นไม้ ของเล่น ยาหอม ฯลฯ ระยะทางเดินตลาดประมาณ 500 เมตร
เมื่อเดินจนสุดทางเป็นทางเข้า-ออกตลาด จะพบกับ วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร ชาวรามัญเรียก “เพียะมุเกี๊ยะเติ้ง” มีพระเจดีย์มุเตา (เจดีย์เอียง) เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด และยังมีโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถที่ตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี เนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงบูรณะวัดแห่งนี้ จึงนำศิลปะยุโรปเข้ามาใช้ พระประธานปางมารวิชัย มีพระพักตร์คล้ายคนจริง ๆ รวมทั้งจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม ส่วนฝั่งวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ยาว 9.50 เมตร ด้านหลังพระวิหารประดิษฐานพระนนทมุนินท์ พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี นอกจากนี้ แนะนำให้เข้าไปชมหอไทยนิทัศน์เครื่องปั้นดินเผา ซึ่งให้ความรู้ภูมิปัญญา วัฒนธรรมของชาวรามัญ จุดเด่นของที่นี่อีกจุด คือ การสวดมนต์ของที่นี่ยังคงอนุรักษ์การสวดเป็นภาษามอญ วัดนี้มีจุดลงเรือข้ามฟากไปยังวัดสนามเหนือ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมลงเรือท่านี้
เดินมานานแล้วท้องเริ่มหิว มาเยือนที่เกาะเกร็ดทั้งที ต้องชิมอาหารขึ้นชื่อ อาหารถิ่นของที่นี่ บัดดี้แวะ ร้านบ้านสวนริมชล เป็นร้านอาหารออแกนิคปลอดสารพิษ เมนูแนะนำได้แก่ ทอดมันหน่อกะลา แกงส้มหน่อกะลา เมี่ยงคำกลีบบัว ยำไข่เจียวหน่อกะลา ยำเกสรบัวหลวง ปิดท้ายด้วยแตงโมหน้าปลาแห้ง อย่าลืมกินข้าวแช่ด้วยนะคะ ร้อน ๆ แบบนี้ช่วยดับกระหายได้ดีทีเดียว
จุดหมายถัดไป คือ วัดฉิมพลีสุทธาวาส ห่างจากร้านอาหาร ประมาณ 850 เมตร ถือเป็นการเดินย่อยไปในตัว ระหว่างทางจะมีร้าน Café เก๋ ๆ ที่อยู่ติดกับริมน้ำเจ้าพระยา ร้านของเล่นโบราณ ร้านโชว์ห่วยแบบชาวบ้าน ร้านเช่าจักรยาน ร้านขนมหวาน ร้านข้าวแช่ เดินผ่านผู้คนในชุมชมน่ารักมาก คอยทักทาย ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
เดินทางถึงวัดฉิมพลีสุทธาวาสแล้ว เป็นวัดรามัญเช่นกัน วัดนี้สร้างในสมัยอยุธยา มีอุโบสถมหาอุตม์ที่งามที่สุดในจังหวัดนนทบุรี บริเวณซุ้มหน้านาง เป็นงานปูนปั้นที่มีความละเอียด อ่อนช้อย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงบูรณะและพระราชทานนามว่า วัดฉิมพลีสุทธาวาส เนื่องจากเป็นพระนามเดิมของท่านชื่อว่า เจ้าฟ้าชายฉิม ส่วนคำว่า "สุทธาวาส" ที่พ่วงท้ายนั้นคล้ายชื่อเดิมของวัดสุทัศน์คือ "วัดมหาสุทธาวาส"
ได้เวลากลับไปฝั่งปากเกร็ดแล้ว บัดดี้ยังเหลืออีก 1 วัดที่อยากจะแนะนำเพื่อน ๆ ให้เดินทางมา จากวัดฉิมพลีสุทธาวาส เลี้ยวขวาเพื่อไปยังท่าเรือป่าฝ้าย ประมาณ 130 เมตร เป็นท่าเรือที่ชาวบ้านในชุมชนเกาะเกร็ดใช้สัญจร ข้ามฟากมากที่สุด บัดดี้ขึ้นเรือไปวัดกลางเกร็ด ราคาเพียง 3 บาทเท่านั้น วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งที่เป็นวัดรามัญ มีพระพุทธไสยาสน์ในพระวิหาร ยาวถึง 11 วา มีหอไตรกลางน้ำสร้างด้วยไม้
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับเส้นทาง “ลัดเลาะเกาะเกร็ด สัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชนรามัญ” นักท่องเที่ยว สามารถตามรอยหรือปรับเปลี่ยนเส้นทางตาม Lifestyle และเวลาที่สะดวกได้เลย จะไปปั่นจักรยานเที่ยว เดิน-วิ่ง ออกกำลังกาย รอบเกาะ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร หรือจะล่องเรือเที่ยวรอบเกาะก็ได้เช่นกัน ถ้า 1 วันไม่พอ นอนโฮมสเตย์ที่นี่ก็ยังได้ มีให้เลือกหลากหลายค่ะ ใครไปเที่ยว Style ไหนบ้าง แชร์ประสบการณ์กันมาได้นะคะ
เกาะเกร็ด
เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาเยือนทุกวัน
วันธรรมดา ร้านค้าเปิดบางส่วน
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านค้าเปิด 100%
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่วัดบางจาก วัดสนามเหนือ และวัดกลางเกร็ด มีท่าเรือต่อไปยังเกาะเกร็ด
รถประจำทางสาธารณะ ลงโรงเรียนปากเกร็ด 505 51 52 104 150 166 356 359 367 388 505 ต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างไปที่ท่าเรือตามที่ระบุ
รถไฟฟ้าสายสีม่วง ลงที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ต่อแท็กซี่มาลงที่ท่าเรือตามที่ระบุ
เรือด่วนเจ้าพระยา ธงสีส้ม เส้นทางสาทร - นนทบุรี มีบริการทุกวัน ส่วนเรือสีอื่น ๆ บริการแค่วันจันทร์-ศุกร์ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
เรือข้ามฟากสาธารณะ จากฝั่งปากเกร็ด มายังเกาะเกร็ด จำนวน 3 ท่า ได้แก่
1. ท่าเรือวัดบางจาก-ท่าเรือวัดเสาธงทอง
บริการ 06.00-19.00 น.
วันธรรมดา ราคาคนละ 10 บาท
วันเสาร์-อาทิตย์ ราคาคนละ 5 บาท
2. ท่าเรือวัดสนามเหนือ-ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร
บริการ 05.00-21.30 น. (วันอาทิตย์ 05.00-21.00 น.)
เวลา 05.00-06.00 น. ราคาคนละ 5 บาท
เวลา 06.01-17.59 น. ราคาคนละ 3 บาท
เวลา 18.00-21.30 น. ราคาคนละ 5 บาท
3. ท่าเรือวัดกลางเกร็ด-ท่าเรือป่าฝ้าย
บริการ 04.30-21.00 น.
เวลา 04.30-06.00 น. ราคาคนละ 5 บาท
เวลา 06.01-18.00 น. ราคาคนละ 3 บาท
เวลา 18.01-21.00 น. ราคาคนละ 5 บาท
ค่าเช่าจักรยาน
จักรยานธรรมดา
ราคาประมาณ 40-60 บาทต่อ 1 คัน
จักรยานไฟฟ้า
ชั่วโมงละ 150 บาท
พิเศษ 100 ท่านแรก รับของที่ระลึกได้เลย
เพียงกรอกแบบสอบถามความพึงพอใจของเนื้อหา (Content) และผลการรับรู้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวบนเว็บไซต์ www.tourismthailand.org ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ความเห็นของคุณจะช่วยให้เราปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งฟีเจอร์และเนื้อหาที่เราจะพัฒนาให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด คลิก