รายละเอียด
1.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย
ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช มีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้
-ชมทะเลบัวแดงเป็นแหล่งดูทะเลบัวแดงที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
-ชมนกนานาชนิดทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพอาศัยอยู่ประมาณ 287 ชนิด
-สัมผัสวิถีชีวิตควายน้ำ
-คลองปากประ ตอนเช้าประมาณ 06.00 น. เป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย พร้อมทั้งชมวิถีการยกยอยักษ์
-ชุมชนหัวลาน หัวเลี้ยว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านทะเลน้อย บรรยากาศเป็นชุมชนพื้นบ้าน มีขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นบ้าน และมีการทำผลิตภัณฑ์จากกระจูดในชุมชน เกือบทุกครัวเรือน เช่น กระเป๋า เสื่อ ฯลฯ นักท่องเที่ยวสามารถชมการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์ได้
-สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550เป็นจุดดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
2. ล่องแก่งลานข่อย
อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เริ่มเมื่อประมาณปี 2554 โดยอาศัยลำคลองห้วยน้ำใสเป็นสายน้ำในการล่องแก่ง นับว่าเป็นธารน้ำที่สวยงามมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการล่องแก่ง เพราะสายน้ำไหลผ่านโขดหินและธรรมชาติที่สวยงาม ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาในการล่องแก่งนาน 2-3 ชั่วโมง เป็นการล่องแก่งหนึ่งเดียวในประเทศช่วงหน้าแล้งน้ำมาก หน้าฝนน้ำน้อย ตลอดเส้นทางจะมีสต๊าฟที่มีความชำนาญคอยดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดอันตราย หรือหากนักท่องเที่ยวท่านใดที่ไม่ต้องการล่องแก่ง ก็สามารถลงเล่นน้ำได้ พร้อมกันนี้ก็ยังมีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนในยามค่ำคืนอีก
3.บ่อน้ำร้อน ธารน้ำเย็น
ตั้งอยู่บริเวณเขาชัยสน ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง อบต.เขาชัยสน ได้พัฒนาพื้นที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีที่พัก ห้องอาบน้ำร้อน บ่อแช่น้ำร้อนไว้บริการ ทางด้านเหนือของบ่อน้ำร้อนประมาณ 700 เมตร เป็นที่ตั้งของถ้ำพระ ภายในมีบ่อน้ำเย็น มีน้ำลึกประมาณ 1 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ด้านบนของถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระนอน และยังมีภาพผนังถ้ำที่สวยงาม บ่อน้ำร้อนของที่นี่มีน้ำร้อนใต้ดินเป็นน้ำพุ่งขึ้นมา ผ่านตามช่องเปิดใต้ดินที่มีโครงสร้างหลายลักษณะต่างกัน และอุณหภูมิของน้ำจะสูงขึ้นหากได้รับแรงสะเทือน น้ำร้อนในบ่อมีอุณหภูมิ ประมาณ 60 องศาเซลเซียส เป็นน้ำแร่ที่สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น โรคอัมพฤกษ์ โรคปวดเมื่อย เป็นต้น
4. นาโปแก
อ.ควนขนุน แหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวพัทลุงแบบดั้งเดิม ขนานแท้ ที่มาของชื่อ “นาโปแก” มาจากคำว่า นา คือ ทุ่งนา และโปแกเป็นสำเนียงภาคใต้ คือ ปู่แก ซึ่งสำเนียงคนพัทลุง จะออกสำเนียงเป็น โปแก หรือพ่อแก่นั่นเอง ที่นี่เกิดขึ้นจากการนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยเฉพาะการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ สัมผัสวิถีชีวิตท้องทุ่ง การทำนา ปลูกข้าวแบบดั้งเดิม อาหารพื้นถิ่น และมีการนวดเฉพาะจุดสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ คือนวดแก้ปวดประจำเดือน
5 ตลาดป่าไผ่สร้างสุข
อ.ควนขนุน สวนไผ่ขวัญใจของคุณขวัญใจ แต่เดิมนั้นเป็นสวนที่ทำการเพาะปลูก ขยายพันธุ์ไผ่ และถ่านจากไม้ไผ่ พร้อมทั้งมีศูนย์การเรียนรู้มายาวนาน แต่ได้เริ่มมาเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเมื่อปลายเดือนมกราคม 2560 โดยเกิดจากความร่วมมือของสวนไผ่ขวัญใจ และเครือข่ายกินดีมีสุข พัทลุง มาช่วยกันสร้างสรรค์ตลาดแห่งนี้โดยมีคอนเซ็ปต์สุดเก๋ คือ "อิ่มกาย บายใจ สุขอยู่ที่พอ" มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน คือ โซนตลาดป่าไผ่สร้างสุขโซนพื้นที่นั่งพักผ่อนโซนกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ โซนการเรียนรู้ของสวนไผ่ขวัญใจ และป่าไผ่สุดร่มรื่นเป็นตลาดสีเขียว ที่ชาวบ้านในชุมชนนำอาหารพื้นเมือง ขนมท้องถิ่นที่หากินยาก ผักสด ผลไม้ พร้อมทั้งสินค้าแฮนด์เมดมาจำหน่าย ในราคาย่อมเยา เปิดทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น.
6. ตลาดใต้โหนด
อ.ควนขนุน ก่อเกิดขึ้น ณ บ้านเกิดของ คุณกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ ปี 2539 ซึ่งหลังจากการเสียชีวิตของท่านในปี 2549 คุณนิยุติ สงสมพันธุ์ (พี่ชาย) ได้เริ่มจากจุดเล็ก ๆ หวังแค่เพียงให้บ้านหลังนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน เป็นสถานที่อ่านหนังสือสุดเงียบสงบของเด็ก ๆ และชาวบ้านในหมู่บ้าน พร้อมทั้งเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านศิลปะ แต่ต่อมาได้มีโครงการตลาดท้องถิ่น ซึ่งให้ชาวบ้านในพื้นที่นำสินค้าปลอดสารพิษ พร้อมทั้งอาหารพื้นเมืองมาจำหน่าย โดยอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กินดี มีสุข” เป็นตลาดสีเขียว บรรยากาศเป็นตลาดพื้นบ้าน มีขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นบ้าน การแสดงทางวัฒนธรรม ร้องรำทำเพลง ของเหล่าเยาวชน เปิดทุกวันอาทิตย์ เวลา 08.00-15.00 น.
7. วัดเขาอ้อ
อ.ควนขนุนก่อนที่จะมาเป็นวัด เคยเป็นสำนักทิศาปาโมกข์แบบเดียวกันกับในประเทศอินเดียมาก่อน คาดว่ามีการก่อตั้งมาก่อนปี พ.ศ. 800 ผู้ก่อตั้งเป็นพรหมณาจารย์ หรือพราหมณ์ผู้ทรงเวทย์ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดียในยุคที่เรียกว่า “ดราวิเลียนยาตรา” คือยุคที่พราหมณ์ขยายฐานศรัทธาของศาสนาออกจากประเทศอินเดีย ที่นี่มีชื่อเสียงในทางไสยเวท และการแพทย์โบราณ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับว่าน ภายหลังจึงมีพิธีแช่ว่าน พิธีกรรมทางไสยเวทหลายอย่าง เกิดขึ้นจนเลื่องลือออกไป เป็นแหล่งสืบทอดเรื่องไสยศาสตร์ เวทมนต์ คาถา เลื่องลือไปทุกสารทิศ เพื่อความอยู่ยงคงกระพัน ยังคงสืบสานประกอบพิธีกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันมีการจัดกิจกรรม “เส้นทางพระพุทธธรรม ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ”
8. อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า
อ.ศรีบรรพต สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งชื่อตามภูเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้คนในจังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เขาปู่” ซึ่งถือว่าเป็นภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ “ตาปู่” เป็นเทพกึ่งธรรพ์ ซึ่งเป็นที่นับถือ เคารพ กราบไหว้ของชาวพัทลุง และประชาชนโดยทั่วไป ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาบรรทัด สลับซับซ้อนปกคลุมด้วยป่าดงดิบชื้นเขียวสะพรั่งทุกฤดูกาล จนได้รับสมญานามว่า “ป่าพรหมจรรย์” มีกิจกรรมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง เหมาะสำหรับการเดินศึกษาธรรมชาติ สมุนไพร ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ
9. เกาะสี่ เกาะห้า เกาะกระ
อ.ปากพะยูน-เกาะสี่ เกาะห้า เป็นหมู่เกาะหินปูนซึ่งตั้งอยู่ในทะเลพัทลุง เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบลงขลา เป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามมาก มีที่ตั้งอยู่ใน ต.เกาะหมาก ห่างไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 1.6 กิโลเมตร สาเหตุที่เรียกว่า “เกาะสี่ เกาะห้า” เนื่องจากเมื่อมองจากทางทิศใต้ และทิศเหนือจะเห็นเป็นเกาะสี่เกาะ แต่ถ้ามองจากทางทิศตะวันตกจะเห็นเป็นเกาะห้าเกาะ จึงเรียกชื่อตามจากลักษณะที่มองเห็นนี้ ชมวิถีชีวิตชาวประมง จุดเด่น คือ นักท่องเที่ยวชมถ้ำรังนกนางแอ่นธรรมชาติได้
10. อาหารถิ่นของฝาก
-ผลิตภัณฑ์จากกระจูด, ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ได้เลือกสรรอย่างเพลิดเพลิน
-ข้าวสังข์หยดราชินีข้าวกล้องแห่งพันธุ์พื้นเมือง ที่รสชาติและคุณค่าระดับสากล ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันความจำเสื่อม บำรุงโลหิต โรคหัวใจ มีกากใยสูงดีต่อระบบขับถ่ายและลำไส้ เคล็ดไม่ลับที่ชาวพัทลุงชวนให้มาสัมผัสความละมุนของข้าวไทยแท้… กินดีไม่มีโรค ของขวัญจากธรรมชาติที่มอบให้คนรักสุขภาพอย่างแท้จริง
อาหารห้ามพลาด
-กุ้งสามน้ำ เป็นกุ้งที่อยู่ในทะเลสาบที่มีลักษณะของน้ำ 3 รส คือ น้ำจืด น้ำกร่อย น้ำเค็ม
-ขนมหวานป้ากี้ มีมากมายหลายชนิด แต่ที่ห้ามพลาดคือ “สาคูแดง” โดดเด่นเก๋ไก๋ด้วยสีแดงแตกต่างจากสาคูทั่วไป รังสรรค์วัตถุดิบขนานแท้จากต้นสาคูในท้องถิ่น สัมผัสรสชาติละมุนนุ่มลิ้น แถมด้วยความหนึบหนับ สุดฟิน หากมาเยือนถิ่นพัทลุงแล้วไม่ได้กิน ถือว่า พลาด
-เดอลองกาแฟสังข์หยดต้องห้าม...พลาด สัมผัสความหอมกรุ่น ปลุกความสดชื่นไปกับกาแฟข้าวสังข์หยด เจ้าแรกของโลก ที่เสิร์ฟพร้อมใยอาหารสูง วิตามิน B1 และ E พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระจากการผสมผสานระหว่างกาแฟเกรดดี และข้าวสังข์หยดที่นำมาคั่วในระดับ delong dark roast จึงได้ความหอม