5 จุดชมวิวสุดปังในประเทศไทยระดับขวัญใจโซเชี่ยลปี 2025

5 จุดชมวิวสุดปังในประเทศไทยระดับขวัญใจโซเชี่ยลปี 2025

TourismThailand, 16 Oct 2025
ถูกใจ

ในยุคที่โซเชี่ยลมีเดียกลายเป็น “เข็มทิศนำทางไลฟ์สไตล์” ไม่ว่าจะเลือกของกิน ของใช้ หรือแม้แต่สถานที่พักผ่อนในวันหยุดยาว เราเชื่อว่าหลายคน (รวมถึงคุณด้วย) ก็คงไม่พลาดที่จะเปิดรีวิวใน โซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ ก่อนเก็บกระเป๋าเดินทางอย่างแน่นอน

และถ้าคุณคือสายเที่ยวที่ชอบเก็บทุกวิวลงฟีด!

นี่คือ 5 จุดชมวิวที่ปังที่สุดในโลกโซเชี่ยลมีเดียปี 2025 ที่มียอดแฮชแท็กพุ่งแรงและการเช็กอินยอดฮิตจนกลายเป็นแลนด์มาร์กขวัญใจสายถ่ายภาพทั่วประเทศผ่านแอปพลิเคชัน Instagram

5 Point 1.jpg

เกาะเต่า เกาะนางยวน - จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะเต่าและเกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกยกให้เป็นสวรรค์แห่งทะเลอ่าวไทย และที่นี่มีจุดชมวิวที่โดดเด่นและได้รับความนิยมในโซเชี่ยลมีเดีย ที่เรียกว่า “สันทรายขาว” หรือพื้นที่ที่เชื่อมเกาะทั้ง 3 เกาะเข้าด้วยกัน จัดว่าเป็นหนึ่งในมุมที่ขึ้นกล้องที่สุดในทะเลอ่าวไทย ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปเช็คอินที่นี่ที่สุดคือช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ที่ถือเป็นช่วงที่อากาศสดใส แดดดี ฟ้าเปิด น้ำทะเลใส สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณได้ภาพถ่ายแทนความทรงจำแบบไม่ผิดหวังแน่นอน 

นอกจากการชมวิวที่นี่แล้วยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำมากมายทั้งการดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัค และกิจกรรมปาร์ตี้ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

5 Point 2.jpg

ภูชี้ฟ้า - จังหวัดเชียงราย 

ภูชี้ฟ้าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยวิวทะเลหมอกยามเช้าที่อลังการและกว้างไกลสุดสายตา ยอดเขาสลับซ้อนเป็นชั้น ๆ ของภูเขาเรียงตัวอย่างงดงามราวกับภาพวาดธรรมชาติ สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนทุกครั้ง

ช่วงเวลาที่งดงามที่สุดอยู่ในปลายปี เมื่อต้นดอกไม้เมืองหนาวเริ่มเบ่งบาน ทำให้ทะเลหมอกและทิวเขาเต็มไปด้วยสีสันอ่อน ๆ ของดอกไม้ รับรองว่าที่นี่จะเป็นสุดยอดจุดชมวิวยามเช้าที่คุณจดจำได้ไม่รู้ลืม

นอกจากนี้ ที่ภูชี้ฟ้ายังมีกิจกรรมให้เพลิดเพลินอีกมากมาย ทั้งการชมความงามของซากุระเมืองหนาว หรือดอกพญาเสือโคร่ง ที่บานสะพรั่งทั่วขุนเขา การเดินป่าชมธรรมชาติ ไปจนถึงการเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขาท่ามกลางวิถีชีวิตเรียบง่าย คุณจะได้เก็บภาพสวย ๆ จนเต็มกล้อง และจะเข้าใจทันทีว่าทำไม “ภูชี้ฟ้า” ถึงกลายเป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทุกยุคทุกวัย

5 Point 3.jpg

ดอยอินทนนท์ – จังหวัดเชียงใหม่

“ดอยอินทนนท์” สถานที่ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวหน้าหนาวของไทยมายาวนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ดอยอินทนนท์ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาวและรอชม “แสงแรกของปี” บนยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงถึง 2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ทิวทัศน์บนยอดดอยเปิดกว้างให้มองเห็นแนวภูเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา ยามเช้าอาบไปด้วยแสงสีทองจากพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอก ส่วนยามเย็นก็อบอุ่นด้วยแสงสุดท้ายก่อนลับขอบฟ้า สองช่วงเวลานี้คือเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนอยากกลับมาซ้ำทุกปี

บริเวณรอบดอยยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการชมความงามของ พระมหาธาตุเจดีย์คู่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขา การเดินป่าศึกษาธรรมชาติในเส้นทางยอดนิยมอย่างกิ่วแม่ปาน หรือการเที่ยวชมน้ำตกวชิรธารที่สายน้ำโปรยตัวลงมาท่ามกลางผืนป่า ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เวลาอยู่ในมุมใด ดอยอินทนนท์ก็ยังคงมอบประสบการณ์อันแสนงดงาม ทั้งในภาพถ่ายและความรู้สึกในใจ

5 Point 4.jpg

เสม็ดนางชี - จังหวัดพังงา

จุดชมวิวเสม็ดนางชี (Samed Nangshe Viewpoint) ตั้งอยู่ในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและการชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม

จากจุดชมวิวบนยอดเขาสูงราว 800 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวพังงาได้กว้างไกลสุดสายตา เกาะหินปูนรูปทรงแปลกตาเรียงรายอยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีฟ้าใส สร้างภาพพาโนรามาอันงดงามแบบ 360 องศาที่ชวนตื่นตาและตรึงใจในคราวเดียว

ช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของเสม็ดนางชี คือยามพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งต่างมอบบรรยากาศคนละแบบให้จดจำ ยามเช้า แสงสีทองของอาทิตย์แรกแห่งวันจะสะท้อนกับผืนน้ำและภูเขา เกิดเป็นภาพแห่งความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติ ส่วนยามเย็น แสงอุ่นสีส้มอาบทั่วท้องฟ้าเหนืออ่าว กลายเป็นฉากสุดโรแมนติกที่ใครได้เห็นสักครั้งย่อมยากจะลืม

5 Point 5.jpg

บ้านจ่าโบ่ - จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวลาหู่ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและอากาศบริสุทธิ์ ความสงบของที่นี่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับเวลาหมุนช้าลง เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของภาคเหนือ ที่ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็พบกับทิวเขาและสายหมอกในทุกมิติของความสวยงาม

ยามเช้าคือช่วงเวลาที่บ้านจ่าโบ่สวยที่สุด ทะเลหมอกจะค่อย ๆ ลอยผ่านไปตามหุบเขา ทอประกายอ่อน ๆ จากแสงอาทิตย์แรกของวัน บางครั้งหมอกหนาจนปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน เกิดเป็นภาพที่ทั้งเงียบสงบและงดงามเกินบรรยาย เหมาะแก่การนั่งมองเพลินหรือเก็บภาพสวย ๆ ไว้เป็นความทรงจำ

นอกจากการชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเล่นชมวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวลาหู่ แวะนั่งจิบกาแฟร้อนจากร้านเล็ก ๆ บนเนิน มองวิวภูเขาและท้องฟ้าเบื้องหน้าได้อย่างสบายใจ ทุกโค้งทางที่ขับผ่านมา จะรู้ทันทีว่าคุ้มค่ากับการเดินทาง เพื่อมาพบกับความสงบและความสวยงามเช่นนี้ 

separate line
0.00

  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%

คุณอาจจะสนใจสิ่งนี้