ท่องเที่ยวลึกซึ้งวังพระนารายณ์ มากมายทุ่งดอกทานตะวัน หรรษาที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

หากเอ่ยถึงจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและหลากหลายด้วยวัฒนธรรม ‘ลพบุรี’ ต้องเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ติดโผอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวารวดี ซึ่งครั้งนั้นเรียกว่า ‘เมืองละโว้’ ก่อนสมัยพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา จึงได้ฐานะเป็นเมืองลูกหลวง

จนมาถึงยุครุ่งเรืองในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ได้ตั้งเมืองลพบุรีเป็นราชธานีแห่งที่ 2 กระทั่งเมืองได้รับการบูรณะบำรุงอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมกับโปรดเกล้าฯ ให้สร้างที่ประทับในพระราชวังและพระราชทานนามว่า ‘พระนารายณ์ราชนิเวศน์’ และจากเรื่องราวยาวนานนับพันปี สถาปัตยกรรมในเมืองลพบุรีก็ยังทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้แก่ผู้มาเยือน

เริ่มต้นกันที่ ‘พระปรางค์สามยอด’ ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะเขมรแบบบายน แต่เดิมเคยเป็นเทวสถานของขอมในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน จนถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์จึงได้บูรณปฏิสังขรณ์พระปรางค์สามยอดเป็นวัด โดยมีพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง

ถัดมาไม่ไกลยังมี ‘พระนารายณ์ราชนิเวศน์’ พระราชวังที่รวมเรื่องราวของเมืองลพบุรีไว้ได้อย่างสมบูรณ์ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปี พ.ศ. 2209 ด้านในแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน มีสถานที่สำคัญ ได้แก่ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท พระที่นั่งที่มีศิลปะแบบผสมผสานระหว่างไทยกับฝรั่งเศส สถานที่ที่พระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าฯ หรือที่หลายคนคุ้นตากับพระที่นั่งแห่งนี้ในรูปวาดสมเด็จพระนารายณ์เสด็จรับคณะราชทูตฝรั่งเศส เชอวาลิเยร์ เดอ โชมองต์ (Chevalier de Chaumont)

พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์ ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน มีสระน้ำใหญ่ 4 สระอยู่รายล้อม ใช้เป็นที่สรงสนานของพระเจ้าแผ่นดิน และพระที่นั่งจันทรพิศาล ที่ประทับเดิมของสมเด็จพระนารายณ์ก่อนย้ายไปพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ และหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2405 เพื่อเป็นที่ประทับของพระองค์เมื่อครั้งเสด็จบูรณะเมืองลพบุรี ปัจจุบันพระที่นั่งหมู่นี้ ได้รวมกับพระที่นั่งจันทรพิศาล จัดทําเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ จัดแสดงเรื่องราวพระราชประวัติของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ปะติดปะต่อเรื่องราวประวัติศาสตร์กันต่อที่ ‘วัดเขาสมอคอน’ ตำนานเล่าขานกันว่าเขาสมอคอนก็คือเขาสรรพยาในเรื่อง รามเกียรติ์ ที่หนุมานไปค้นหายาสมุนไพรรักษาพระลักษณ์ อันเป็นที่มาของรูปปั้นหนุมานขนาดใหญ่แบกเขาสรรพยาไว้บนยอดเขาสมอคอน ซึ่งนับเป็นจุดเด่นของวัดที่เปิดให้ผู้มาเยือนได้ขึ้นไปสักการะเจดีย์ทรงลังกาด้านบน และชมวิวเมืองที่สวยงาม

เดินขึ้นเขาวัดเขาสมอคอนแล้วก็ไม่ควร พลาดอีกหนึ่งวัดสำคัญของเมืองลพบุรี นั่นก็คือ ‘วัดเขาวงพระจันทร์’ วัดที่มีพระพุทธบาทตั้งอยู่บนยอดเขาความสูง 3,790 ขั้นบันได ใช้เวลา เดินขึ้นราว 2 ชั่วโมง นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดลพบุรี และยังเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธโชคหรือพระเชียงแสน พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะสมัยเชียงแสน นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ ประเทศไทย รองจากหลวงพ่อใหญ่วัดม่วงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอ่างทอง

สลับมาแนะนำร้านกาแฟแก้คอแห้งบ้าง แวะที่ ‘About Coffee garden’ ร้านกาแฟที่ต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง เหมือนมาจิบกาแฟหอมกรุ่นในสวนบ้านเพื่อน การันตีด้วยรางวัล National Thailand Barista Championship 2015 จึงไว้ใจได้ถึงรสชาติและความแปลกใหม่ เมนูที่ห้ามพลาดด้วยประการ ทั้งปวง ได้แก่ AB Coffee เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน หนึ่งในสูตรที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน เป็นกาแฟดำที่นำมาประยุกต์ให้ได้ รสชาติที่ดื่มง่าย หอม หวาน สดชื่น แบบที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน และเมนู PiccoloLatte กาแฟไซส์เล็กขนาด 4 ออนซ์ คั่วกลาง ได้รสชาติเข้มข้นทว่านุ่มละมุน

เติมความกระปรี้กระเปร่ากันแล้วก็ต้องตามด้วยอาหารอร่อย ขอแนะนำให้มาฝากท้องกันที่ตลาดบนเมือง ตลาดเช้าที่มีอาหารนานาชนิดให้เลือกลิ้มรส โดยเฉพาะร้าน ‘เจ๊ตุ้ย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส’ ที่มีให้เลือกทั้งหมูและเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใสหน้าตาธรรมดาแต่ความพิเศษอยู่ตรงลูกชิ้นทำเอง ลูกชิ้นขนาดพอดีคำรสชาติกลมกล่อมแทรกด้วยเอ็นหมูเด้งสู้ฟัน ส่วนเมนูเนื้อจะกินเส้นอะไรก็อร่อยหมด เพราะไฮไลต์ที่ต้องยกนิ้วให้นั้นอยู่ที่เอ็นเนื้อเปื่อย เนื้อแน่นเต็มคำ ส่วนลูกชิ้นเนื้อทำเองก็รสชาติน่าประทับใจ

อิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวเจ๊ตุ้ยแล้วอย่าเพิ่งรีบกลับ ลองเดินเข้ามาในตัวตลาดอีกนิดจะ พบกับร้านส้มฟักสมพร จำหน่าย ‘ส้มฟัก’ อาหารพื้นถิ่นที่ทำจากเนื้อปลากรายหมักกับเกลือ ข้าวสุกบด และกระเทียมดอง จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน เวลากินต้องนำมาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน เนื้อส้มฟักมีรสเปรี้ยวคล้ายแหนมปลากราย รวมถึงเมนู ‘ปลาส้ม’ ที่ใช้ปลาตะเพียนขอดเกล็ดคลุกเกลือ คว้านท้อง ควักเครื่องในออก นำข้าวสุกผสมกระเทียมใส่เข้าไปในท้องปลา แล้วหมักจนได้ที่ เวลากินให้นำมาทอดให้เหลืองสวย จะได้เนื้อปลาที่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอม เหมาะสำหรับกินกับข้าวสวยหรือข้าวต้มร้อนๆ

นอกจากลพบุรีจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวถูกใจสายกิน ใครที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติก็ต้องห้ามพลาด ‘น้ำตกวังก้านเหลือง’ อำเภอชัยบาดาล น้ำตกขนาดกลางที่ยังคงความสวยงามของธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์ โดยมีลักษณะพิเศษคือ ต้นน้ำที่เป็นตาน้ำขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินจึงเกิดแอ่งน้ำสีมรกตงดงาม น้ำตกแห่งนี้ลดหลั่นเป็นทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ก่อนไหลลงไปบรรจบกับแม่น้ำป่าสัก มีน้ำไหลตลอดปีจึงมาเที่ยวได้ทุกฤดู มีลานกางเต็นท์ให้บริการ รับรองว่าบรรยากาศดีไม่แพ้น้ำตกที่อื่นเลย

ปิดท้ายด้วยความชุ่มฉ่ำกับกิจกรรมล่องแพไม้ยามเย็น ณ บ้านสวนขวัญริมคลองบางขาม อำเภอบ้านหมี่ พื้นที่ลุ่มแม่น้ำที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีริมน้ำ ‘บ้านมหาสอน’ ที่นำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในชุมชนพร้อมทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เช่น นั่งรถอีแต๋นชมทุ่ง ชมการทำจักสานเครื่องหวาย ชมฟาร์มเลียงกุ้งก้ามแดง ชิมไข่เค็มใบเตย และไฮไลต์ปิดท้ายยามเย็นด้วยการล่องแพไม้ไผ่ชมพระอาทิตย์ตกดิน

จากที่เราก้าวเข้าไปสัมผัสกับ ‘ลพบุรี’ ยืนยันได้ว่าจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จะเป็นวันเดย์ทริปหรือใช้ชีวิตอยู่เป็นสัปดาห์ก็เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ ครบอรรถรสทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และธรรมชาติ จึงห้ามพลาด ด้วยประการทั้งปวง