งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย

28 มีนาคม - 1 เมษายน 2567 เวลา 10.00-21.00น

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

แกะกล่องความสุขกับเปิดเมนูประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยทุกมิติ ยกเมืองไทยมาไว้ในที่เดียว 
ปีนี้ ททท. จัดเต็มยกทัพพลัง Soft Power และวัฒนธรรมย่อย Sub-Culture มาเป็นจุดขายสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของแต่ละภูมิภาค ควบคู่กับนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและขยายตัวไปสู่เมืองรองรวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism)ตลอดทั้ง Customer Journey โดยจะผนวกเทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาเป็นเครื่องมือในการส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางรับความสุขทันที ที่เที่ยวไทยตลอดทั้งปี (365 วัน)และเกิดเป็น Amazing Experience ที่มีคุณค่าและความหมาย ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรแบบครบวงจร 360 องศา

โซนกิจกรรมภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย

ภายในงานจะประกอบด้วย 9 โซนหลัก ซึ่งนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง 5 ภูมิภาค พร้อมด้วยหลากหลาย Landmark และกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนอวัฒนธรรมไทยด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย รวมถึงส่งเสริมแนวคิด Sustainable Tourism 

พื้นที่นำเสนอแคมเปญท่องเที่ยวต่าง ๆ ของ ททท. สร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยว ผ่านจอภาพขนาดใหญ่ ในรูปแบบ LED Boxแสดงภาพสถานที่ท่องเที่ยว ภาพกราฟิกที่จะพาออกผจญภัยท่องเที่ยวเสมือนจริงในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ร่วมถ่ายรูปเส้นทางท่องเที่ยวของไทย ในรูปแบบ Green ScreenHologram แสดงถึงความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบดิจิทัล และเป็นลานกิจกรรมเล่นเกมส์ การแสดงต่าง ๆ รวมถึงมุมกาแฟ 
มาดื่ม มาดริ้งค์ Amazing Thailandที่รวบรวมเมล็ดกาแฟที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเทคโนโลยี AI เพื่อการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวผ่าน Amazing Thailand VR Domeสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยว จะได้ร่วมพูดคุยกับน้อง VISTA Virtual Influencer ของ ททท. พร้อมแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ รวมทั้งสร้างความเข้าใจการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ถ่ายภาพในโดมที่ฉายภาพสถานที่ท่องเที่ยว พร้อม download ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวผ่าน QR code นอกจากนี้ยังมีโซน TAT Shopจัดจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand อาทิ เสื้อโปโล หมวก ร่ม กระเป๋าเดินทาง และโซน อ.ส.ท. Traveller Bar and Space “อสท. เพื่อนสนิท ของนักเดินทาง” พบกับบาร์เครื่องดื่มวัตถุดิบพื้นบ้านมุม Exclusive Talk พูดคุยกับนักเขียน ช่างภาพ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว นิทรรศการภาพอนุสาร อ.ส.ท. พร้อมจำหน่ายและสมัครสมาชิกนิตยสาร อสท. รวมทั้งเคาน์เตอร์ 1672 Travel Buddy เพื่อนร่วมทางให้ข้อมูลข่าวสารภายในงาน และข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวการท่องเที่ยวไทย

ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านแหล่งท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ๆ และอิทธิพลทางวัฒนธรรม 5 F (Soft Power) ที่มีเอกลักษณ์และจุดขายที่โดดเด่นของภาคตะวันออก ได้แก่ 1. ยืนหนึ่งเรื่องกิน 2. สุดฟินเรื่องเที่ยว 3. เต็มเหนี่ยวเที่ยวสายศรัทธา(สายมู) 4. เรียนรู้เรื่องรักษ์

โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มานำเสนอ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์ที่ดีจากหมู่บ้านภาคตะวันออกแล้วเกิดแรงบันดาลใจให้เดินทางท่องเที่ยว 9 จังหวัดในภาคตะวันออก

นอกจากนี้ ยังมีการจัดพื้นที่ทำสรงน้ำพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รับเทศกาลสงกรานต์ด้วย

►แลนด์มาร์ก: ประภาคารบางเบ้า เกาะช้าง จ.ตราด และหัวแหวนพลอย จ.จันทบุรี 

►จุดถ่ายภาพ: จุดถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยว 3 มิติที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ จำนวน 4 จุด อาทิ จุดถ่ายภาพบ้านธูป จ.สมุทรปราการ จุดถ่ายภาพสวนผลไม้ภาคตะวันออก จุดถ่ายภาพหมู่บ้านชาวประมง-สะพานปลา และจุดถ่ายภาพจำลองบรรยากาศตลาดโบราณ 100 ปี

► จุดให้บริการข่าวสารท่องเที่ยว: อาคารเรือนไม้เขียว (พระจุฑาธุชราชฐาน) เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

►ไฮไลต์ห้ามพลาด:

1. โซนยืนหนึ่งเรื่องกิน : นำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของอาหารและผลไม้ในภาคตะวันออก อาหารทะเลสดๆ พร้อมเสิร์ฟ อาทิ ร้านป้าบ้านอำเภอ จ.ชลบุรี มาพร้อมซิกเนเจอร์เมนูปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ด คะน้าผัดปลาเค็ม แกงป่าปลาเห็ดโคน แกงเขียวหวาน แกงขี้เหล็ก It’s a must ทุกเมนูที่มาขายในงานนี้ อร่อยเด็ดเมนูถัดไป หอยจ้อปูแม่วรรณา ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ร้านกั้งบ้านเพ จ.ระยอง หมูชะมวง แกงไก่บ้านกระวานจากครัวจันท์อาหารถิ่น จ.จันทบุรี 
ข้าวคลุกพริกเกลือ จ.จันทบุรี ขนมฆวยตาอุ้ย จ.ตราด กุยช่ายคุณเอ้ จ.นครนายก ผลไม้แช่อิ่ม วิสาหกิจชุมชนของดีอำเภอบางคล้า รวมทั้งผลไม้นานาชนิด เช่น ทุเรียนสวนคุณยาย จ.ระยอง มะยงชิด สวนแก้วคูณ จ.นครนายก คาเฟ่ทุเรียน 
ที่ไม่ควรพลาด

2. โซนสุดฟินเรื่องเที่ยว : นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวลับๆ 9จังหวัดในภาคตะวันออกพร้อมการแสดง แสง สี เสียง กราฟิกประกอบการแสดงทางวัฒนธรรมผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ พร้อมฟังดนตรีจากวงดุริยางค์ทหารเรือในบรรยากาศทะเลบางแสน

3. โซนเต็มเหนี่ยวเที่ยวสายศรัทธา(สายมู) : เอาใจสายมู ยกตลาดพลอย อัญมณีเสริมโชคเสริมดวงมาให้สายมู ได้เลือกชม เลือกชอป จากร้านดังใน จ.จันทบุรี พร้อมถ่ายรูปสุดเก๋กับหัวแหวนพลอย 

4. โซนเรียนรู้เรื่องรักษ์ : นำเสนอ Creative Workshop ภายใต้แนวคิดนำวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ เครื่องจักสานสู่งาน Art & Design รังสรรค์ผลงานในมุมมองใหม่ๆ ที่หลากหลายรูปแบบ ให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสาธิตจาก ชุมชน / แหล่งท่องเที่ยว 9 จังหวัด อาทิ - สาธิตการนวดบำบัดรักษาอาการ Office Syndrome / ทำน้ำสมุนไพร อาทิ เมนูน้ำ ซูซ่าร่าเริง , สดชื่นรื่นรมย์ จาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี - สาธิตกิจกรรม Eco Print พิมพ์ผ้า 3 ป่า จากวิสาหกิจชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง จ.ตราด - สาธิตกิจกรรมการทำลูกประคบสมุนไพรสด ชุมชนบางกอบัว จ.สมุทรปราการ

ภาคกลาง นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นของภาค ผ่านวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5F (Soft Power) คือ Food, Film, Fashion, Fight, Festival ที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวผสมผสานไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมทั้งให้คุณค่ากับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable tourism) ผสมผสานความสนุกสนาน รื่นเริงไปกับบรรยากาศแห่งความสนุกแบบไทย ๆ ภายใต้ธีม “งานวัด” ย้อนวันวานบรรยากาศสุดคิดถึงด้วยกิจกรรมชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และตู้คีบมนุษย์ ก่อนจะสอดแทรกงานเทศกาลสงกรานต์ในธีม “สงกรานต์มนต์รักลูกทุ่ง”เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางในภูมิภาคและสร้างแรงบันดาลใจให้ออกไปท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวจริงตามพื้นที่ต่าง ๆ 

►แลนด์มาร์ก:

1) หมู่เรือนไทยภาคกลาง จัดทำอาคารเรือนทรงไทย ที่มีลักษณะและเอกลักษณ์ความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมประจำภาคกลาง พื้นที่ชั้นบนของตัวบ้าน และมีห้องพระ ประดิษฐานพระแก้วมรกตเพื่อให้ผู้เข้าชมร่วมสักการะ ขอพร เสริมสิริมงคล รับเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่พื้นที่บริเวณใต้ถุนบ้านเรือนไทย รองรับการสาธิต ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาภาคกลาง เช่น การนวดไทย ฯลฯ

2) กำแพงวังพระนารายณ์ราชนิเวศน์ (กำแพงวังนารายณ์) จ.ลพบุรี ออกแบบเพื่อแสดงถึงการมาถึงบริเวณพื้นที่ภาคกลาง เป็นทางเข้าไปยังหมู่บ้านภาคกลาง 

► จุดถ่ายภาพ :      

1) จุดถ่ายภาพ “ทุ่งทานตะวัน” โดยการจำลองบรรยากาศทุ่งขนาดใหญ่ และสามารถยืนถ่ายภาพให้เหมือนของจริง อยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงวังนารายณ์ 

     2) จำลองบรรยากาศ “สวนตาล” (สวนต้นตาลลุงถนอม จ.เพชรบุรี) ภายในโซนหมู่บ้านภาคกลาง เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับหมู่บ้านและความเป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับวิถีท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

     3) จุดตกแต่ง ประดับ แขวนด้วย “ว่าวแฟนซีนานาชาติ” ด้วยสีสันที่สดใส สะท้อนความสวยงาม ความสนุกสนาน และความร่วมสมัยของกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล

► ไฮไลต์ห้ามพลาด : 

1. ตลาดภาคกลาง ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมอาคารภาคกลางนำจุดเด่นมาประดับตกแต่งอย่างสวยงาม จำลองตลาดบก - ตลาดน้ำ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่นในเรือพายแบบดั้งเดิม เพิ่มกลิ่นอายวิถีชีวิตริมฝั่งคลอง อาทิ ผัดไทเมืองปทุม เมี่ยงคำลำพญา จ.นครปฐม ข้าวแช่ป้าเฉลี่ยว จ.นนทบุรี กะลาทิพย์ 
จ.สมุทรสงคราม โรตีสายไหมบังหมัด แสงอรุณ จ.พระนครศรีอยุธยา

2. นำเวทีมวยมาเป็นเวทีหลักของโซน เพื่อจัดการแสดงเชิงวัฒนธรรมจากจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ 
มวยไทยภาคกลาง, มวยลพบุรี จ. ลพบุรี, และมวยเด็ก สมุทรสาคร, โขนเด็ก จ. สมุทรสาคร, หัวโต กลองยาว จ. สุพรรณบุรี และ รำวง จ.เพชรบุรี รวมทั้งการแสดงของศิลปิน

3. โซนการจัดแสดงเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง จากผลิตภัณฑ์ผ้าภาคกลาง อาทิ ผ้าลายอย่าง ผ้าขาวม้า และรวมทั้งจำหน่ายสินค้า OTOP 18 ร้าน ของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ชุมชน วิสาหกิจชุมชน และสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ภาคกลาง

4. การเสวนา การเดินทางท่องเที่ยว สายศรัทธา กับซินแสเป็นหนึ่ง แบรนด์แอมบาสเดอร์ ไนท์กี้ คุณไนกี้นิธิดล และผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง“เคล็ดลับ เที่ยวให้รู้มูให้ปัง” 

5. โซนงานวัด รื่นเริงไปกับบรรยากาศแห่งความสนุกแบบไทย ๆ ภายใต้ธีม “งานวัด” ด้วยกิจกรรมชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และตู้คีบมนุษย์ 

นำเสนอเอกลักษณ์และความโดดเด่นของภาคผ่าน Northern Thailand Soft Power 5 F: Soft Power) คือ Food, Film, Fashion, Fight/Wellness, Festival ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ โดยชูเรื่องงานเทศกาลประเพณีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ความศรัทธา (Faithival) ของชาวล้านนา “งานเทศกาลสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง” ภายใต้ธีม “งานวัดภาคเหนือ” จำลองบรรยากาศกิจกรรมทำบุญปี๋ใหม่เมือง กิจกรรมทำบุญปี๋ใหม่เมือง สรงน้ำพระ ปักตุงมงคล เสริมสิริมงคลรับปี๋ใหม่เมือง 

►แลนด์มาร์ก:

จำลององค์พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมกิจกรรมทำบุญ สรงน้ำพระแก้วมรกตลำปาง ปักตุงมงคล รับขมิ้นส้มป่อยเสริมสิริมงคลและสัมผัสบรรยากาศของการเฉลิมฉลองงานสงกรานต์ที่ได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ผ่านการจัดขบวนแห่ที่นำเสนองานเทศกาลประเพณีที่สำคัญตลอดเดือนเมษายน อาทิ ขบวนแห่งานสลุงหลวง (หรือขันเงินขนาดใหญ่) ขบวนแห่ปอยส่างลอง เป็นต้น

► จุดถ่ายภาพ:

1) จุดถ่ายภาพสะท้อนอัตลักษณ์ภาคเหนือ อาทิ แชนเดอเลียจากเครื่องจักสาน, ซุ้มโคมไฟล้านนา จุดถ่ายภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีสลุงหลวง จ.ลำปาง และจำลองประตูทางเข้าหมู่บ้านเป็นประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่

2) กิจกรรมร่วมสนุกแต่งกายชุดที่สะท้อนเอกลักษณ์ภาคเหนือ พร้อมฉากย้อนยุคที่จำลองบ้านนกเขา จ.อุทัยธานี

3) เวิ้งแวดเวียง : นำเสนอกิจกรรมที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Simulation) เข้ากับการท่องเที่ยว ในรูปแบบของกิจกรรมจำลองการขี่รถชมวิวภาคเหนือ พร้อมให้ผู้เข้าร่วมงานดาวน์โหลดและแชร์ประสบการณ์ขับรถเที่ยวภาคเหนือผ่านคลิปวีดีโอขนาดสั้น

► จุดให้บริการข่าวสารท่องเที่ยว: จำลองคุ้มวงศ์บุรี จังหวัดแพร่ 

► ไฮไลต์ห้ามพลาด : 

1. โซนกาดหมั้ว จัดเต็มอาหารพื้นเมืองเหนือลำแต้ๆ ที่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ท้องถิ่นดั้งเดิม เช่น ข้าวซอยใบเหมี้ยง จ.ลำปาง ขนมเทียนเสวย จ.อุตรดิตถ์ ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย ข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่าม 
จ.เชียงใหม่ ไส้อั่วอิงกว๊าน จ.พะเยา ข้าวหลาม น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เป็นต้น และยังมีอาหารถิ่นหากินไม่ง่ายอีกมากมาย เช่น ไส้อั่วเห็ดเผาะ แอ๊บปลา โถ่พูเหลิงทอด แกงฮังเลลำไย ข้าวแรมฟืนทอด แกงกระด้าง เป็นต้น 

2. โซนเย็นใจ๋ เสิร์ฟความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มชา/กาแฟ/โกโก้ เมนูเอกลักษณ์ (Signature) ภายใต้ธีม “365 วันแห่งการเดินทางของคนรักกาแฟ” ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงแหล่งปลูกและแหล่งผลิตในภาคเหนือ เช่น กาแฟเสาวรส อเมริกาโน่ลิ้นจี่ Sparkling Peach Cold Brew ฯลฯ ท่ามกลางบรรยากาศ Glamping พร้อมร่วมกิจกรรมรับสิทธิ์เล่นเกมส์ “เซียมซีเจ้าแม่มาเหนือ” ลุ้นรับ “Joom On Tea” ที่มีส่วนผสมของน้ำมนต์วัดท่าซุง และลุ้นดูดวงจากหมอดูชื่อดัง เมื่อซื้อเครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์ในบูท 365 Days of Coffee at North หมู่บ้านภาคเหนือ 

3. โซนคัวฮักคัวฮอม สายชอปห้ามพลาดกับสินค้าชุมชน (OTOP) ภูมิปัญญาที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นที่พัฒนาและผสมผสานความร่วมสมัย แต่ยังคงเจือกลิ่นอายของต้นกำเนิด เช่น บ้านทองสมสมัย จ.สุโขทัย ทองลวดลายโบราณแบบสุโขทัยที่เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99%, ร้านทิพย์เจมส์แอนด์จิลเวลรี่ จ.ตาก อัญมณีและเครื่องประดับช่วยเสริมบุญ บารมี, เครื่องเงิน บ้านละอูบ จ.แม่ฮ่องสอน เครื่องประดับเงินแท้ โดยช่างผู้เชี่ยวชาญสร้างสรรค์งานแฮนด์เมด,ผลิตภัณฑ์แปรรูปส้มสีทองออริจิน่าน Originan จ.น่าน อาทิ คราฟท์โซดาส้มสีทองเห็ดกรอบส้มสีทอง เยลลี่กัมมี่ส้มสีทอง ชาใบเมี่ยงผสมส้มสีทอง น้ำสลัดส้มสีทอง ซอสปรุงอาหารส้มสีทอง ฯลฯ

4. โซนซะป๊ะคราฟท์ เอาใจชาวมินิมอลกับงานคราฟต์สไตล์ล้านนา เช่น แม่อิงชิโบริ จ.พะเยา ภายใต้แนวคิด Sustainspiration (Sustainability + Inspiration) แฟชั่นแบบยั่งยืน (Slow Fashion) มีกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, Doister จ.แม่ฮ่องสอน รวบรวมผลิตภัณฑ์งานคราฟท์ของที่ระลึกจากเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจ.แม่ฮ่องสอน, แพร่คราฟท์ จ.แพร่ กลุ่มนักออกแบบท้องถิ่นคนรุ่นใหม่ที่เน้นนำเสนอความดั้งเดิม ผนวกกับความร่วมสมัยของภูมิปัญญาแพร่, Echo Batik Maesot จ.ตาก ผลิตภัณฑ์จากผ้าบาติกที่เพ็นท์ลายดอกไม้ของภาคเหนือที่ออกแบบตามยุคสมัย

5. เวิ้งแวดเวียง นำเสนอกิจกรรมที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Simulation) เข้ากับการท่องเที่ยวในรูปแบบของกิจกรรมจำลองการขี่รถชมวิวภาคเหนือ พร้อมให้ผู้เข้าร่วมงานดาวน์โหลดและแชร์ประสบการณ์ผ่านคลิปวีดีโอขนาดสั้น

6. การแสดงจากศิลปินและวงดนตรีที่มีชื่อเสียง เช่น วงเขียนไขและวานิช, วงไม้เมือง, การแสดงดนตรีจากคณะลูกทุ่งวิจิตรศิลป์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอีกมากมาย การแสดงระบำชาวเขา การแสดงตีกลองสะบัดชัย การแสดงหม่องส่วยยี และการแสดงฟ้อนกิงกะหลา 

7. กิจกรรม Workshop DIY อาทิ กิจกรรม E-co Print ผ้าพันคอ จากกลุ่มผ้าพิมพ์ลายธรรมชาติสตรี จ.ลำพูน  กิจกรรมทำตุงใยแมงมุม จากร้านบ้านหนองหม้อ Creative Village จ.เชียงราย กิจกรรมย้อมครามผ้าพันคอ 
จากกลุ่มแพร่คราฟต์ จ.แพร่ กิจกรรมทำพวงกุญแจจากเศษผ้า จากร้านสุนทรีผ้าไทย จ.สุโขทัย และกิจกรรมทำผ้าพันคอจากดอกดาวเรือง จากร้านภูษามัดย้อม จ.นครสวรรค์

นอกจากนี้ หมู่บ้านภาคเหนือยังได้มอบสิทธิพิเศษมาเหนือ Rewards สำหรับผู้ซื้อสินค้าและบริการในหมู่บ้าน สะสมแต้มผ่าน Line OA แลกรับของที่ระลึกจาก ททท. กติการ่วมสนุกดังนี้ มาเหนือ Rewards 1 : ซื้อสินค้าภายในโซนหมู่บ้านภาคเหนือ มูลค่า 100 บาทขึ้นไปต่อร้าน และสแกน Line OA ครบ 3 ร้าน! รับถุงผ้าลดโลกร้อน พร้อมแคปชั่นน่าฮักๆ ชวนแอ่วเหนือ มาเหนือ Rewards 2 : ซื้อสินค้าภายในโซนหมู่บ้านภาคเหนือ มูลค่า 100 บาทขึ้นไปต่อร้าน และสแกน Line OA ครบ 5 ร้าน! รับผ้ากันเปื้อน “มาเหนือ” สุดเท่

นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นของภาค ผ่านวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ ผ่าน Soft Power พร้อมทั้งให้คุณค่าความโดดเด่นของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอัตลักษณ์ของพหุวัฒนธรรม ผสมผสานไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable tourism) คิดถึงบ้านและชวนให้มาเยี่ยม

►แลนด์มาร์ก:

- หอนาฬิกาเมืองเบตง จ.ยะลา พร้อมตกแต่งบรรยากาศรอบบริเวณอย่างสวยงาม ซึ่งจะมีการแสดงแสง เสียง ในทุก ๆ 1 ชั่วโมง

► จุดถ่ายภาพ : ป้ายชื่อหมู่บ้าน SOUTHERN ขนาดใหญ่, ซุ้มประตู้ทางเข้าที่ตกแต่งสีสันร่วมสมัย อาทิ ใช้ลวดลายจากผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก ลูกปัดโนรา และจุดถ่ายภาพ 4 จุด โดยสร้างจากวัสดุเครื่องแขวนร่วมสมัยที่ได้แนวคิดจากสีสันของวัฒนธรรมภาคใต้ ได้แก่ สีสันลวดลายลูกปัดโนราและผ้าปาเต๊ะ จ.พัทลุง, สีสันของกรงนก, สีสันลวดลายว่าวควาย, สีสันของโลกทะเลภาคใต้

► จุดให้บริการข่าวสารท่องเที่ยว: จำลองเรือนไทยปั้นหยา ต้นแบบของวัดชลธาราสิงเห 
จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่ให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเที่ยวภาคใต้ และมีการจัดพื้นที่บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ จำลองพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้สักการะ รับสิริมงคล

► ไฮไลต์ห้ามพลาด :

1. ล้ำสมัยไปกับการผจญภัยเสมือนจริงผ่านระบบ VR180 กับ3 เรื่อง 3 สไตล์ใน ในโซน “virtual หรอย reality” ที่จะพาคุณวาร์ปไปเที่ยวภาคใต้เเบบฟินๆ immersive experience 3 เรื่อง มวย อาหารภาคใต้ เทศกาลกิจเจภูเก็ต 180 องศา

2. เลือกชมเลือกซื้อเสื้อผ้าสไตล์ปักษ์ใต้ร่วมสมัยสวยๆ ไปกับร้านห้องเสื้อชั้นนำ โซน “หลาดงาม หนัด…เสน่ห์ปักษ์ใต้” อาทิ CLOTHEAR VESTIAIRE จ.สงขลา YAYEE จ. ภูเก็ต บ้านศิวะนาฏ ผ้าบาติกพิมพ์ลายโบราณเมืองชัยบุรี Sivanat จ.พัทลุง Raya Batik จ.ปัตตานี Yabulan จ.ยะลา Bangnara Batik จ.นราธิวาส

3. สัมผัสการนวดคลายเส้นเเบบผ่อนคลายสไตล์ Southern จากแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลห้วยยอด จ.ตรัง กับ โซน “หลาดคลายเส้น…ได้แรงอก!” 

4. มาชิมอาหารปักษ์ใต้รสชาติที่คุ้นเคย รับประกันความหรอย ที่ "หลาดหรอยเพนิ" รวมร้านเด่น ร้านดัง ร้านเด็ด 100% จากปักษ์ใต้ มากกว่า 36 ร้าน ขนทัพเเกงเหลือง ข้ามมันไก่ ขนมจีน ไก่ทอดฯลฯ พร้อมเสิร์ฟโรตี ชาชัก ถึงเครื่องเเน่นอน เช่น อาทิ โกสุย หมูย่างตรัง เจริญข้าวไก่เบตงพันธุ์แท้ ชาชักอีซัน@โรตียะลา ขนมเปี๊ยะซอย 9 พิชชานันท์ หอยทอด ขนมผูกรัก JBL ขนมลาบ้านไร่ ร้านเจ๊น้องพ งงา ขนมโคมะพร้าวเกาะสมุย โอ้วเอ๋ว ไก่ฆอและเม๊าะเต๊ะ จ.นราธิวาส ซาลาเปาทับหลี จ.ระนอง บังดีไก่ทอดหาดใหญ่ โรตีร้านขอบคุณสตูล โรตีชาชักบังบ่าวนครศรี ชาชักอีซัน@โรตียะลา ขนมจีนบ้านหนุน เป็นต้น

5. สนุกไปกับการช้อปกับ โซน “หลาดลองแล…เริน OTOP ช้อปของใต้” รวบรวมสินค้า OTOP การันตีคุณภาพจากภาคใต้มาให้ได้ช้อปกันจนเพลิน เช่น กาละแม ป้าโสภา จ.สุราษฎร์ธานี กระจูดวรรธณา จ.นครศรีธรรมราช สายชล ลันตา บาติก จ.กระบี่ ราชินีไข่มุก อันดามัน จ.พังงา Nera เนติพงศ์ ลูกปัดโนรา จ.สงขลา

6. โซน "หลาด Craft…ลองแลต๊ะ” รวมกิจกรรม DIY เเสนสนุกจากปักษ์ใต้ ที่สามารถร่วมกิจกรรมกันได้ทั้งครอบครัว พร้อมรับของที่ระลึกกลับบ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ สาธิตผ้าเช็ดหน้าบาติก-มัดย้อม 
สีธรรมชาติ บ้านรักเฉลิมพระเกียรติ (อินโนญ่า) จ.นครศรีธรรมราช น้ำอบไทยน้ำแร่ระนอง กลุ่มหอมระนอง จ.ระนอง 
เรซิ่น อาร์ท รูปทรงกระดานโต้คลื่น กลุ่ม SKA Heritage จ.สงขลา

7. ชวนร่วมสนุกหน้าเวทีการแสดง “หรอยเอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ” จัดเต็ม โนรา ระบำตาลีกีปัส และเพลิดเพลินกับศิลปินลูกหลานชาวปักษ์ใต้ ได้แก่เอกชัย ศรีวิชัย โดม The Star อิงกฤต The Voice น้องฟลุ๊ก 
และไฮไลต์ ลานเวียนครก จำลองกิจกรรมรำวงเวียนครก จ.นครศรีธรรมราช พร้อมวงดนตรี แดนเซอร์ ที่จะพาย้อนยุคไปแดนซ์มันส์ๆ ทุกวัน

8. เยี่ยมชม Southern hall of Frame ฉายภาพข้อมูล แหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคภาคใต้ที่ได้รับรางวัลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ชวนหลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด “Isan Festi "เว้า" #เล่าเรื่องเมืองอีสาน” บอกเล่าความเป็นอีสานผ่านวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร งานหัตถกรรม มวยโบราณอีสาน วัฒนธรรมและสินค้าที่มีศักยภาพ หรือ ISAN SoftPower ที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวและผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่รวมถึงการตกแต่งภายในหมู่บ้านด้วยโทนสีสันสดใสที่แสดงถึงความม่วนของวิถีชีวิตชาวอีสาน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวจริง

►แลนด์มาร์ก :

พบกับแลนด์มาร์ค จำลองบั้งไฟตะไลล้าน จากบ้านกุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ที่ตกแต่งด้วยงานหัตถกรรมที่โดดเด่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผสมผสานกับนวัตกรรมเทคโนโลยี เทคโนโลยีสื่อผสม เพื่อแสดงถึงเรื่องราวงานเทศกาลประเพณี (Festival) ความสนุก ความเป็นวิถีของคนอีสาน 

► จุดถ่ายภาพ : นำเสนอ Soft Power ของประเทศไทยผ่านวัฒนธรรมถิ่นอีสาน จำนวน 4 จุด 

1) หน้ากากผีตาโขน สะท้อน F-Festival ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ของ จ.เลย จัดในช่วงเทศกาลบุญเดือนเจ็ดตามฮีตสิบสองของภาคอีสาน

2) มวยโบราณ ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในภาคอีสาน มีท่าการต่อสู้เลียนแบบลีลาของสัตว์และแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์นุ่งผ้าหยักรั้งปล่อยชายกระเบน และมีการสักลายเป็นจุดเด่น ซึ่งเป็นที่นิยมของชายชาวอีสานในอดีต

3) Fashion อีสาน ... โก้สู่มื้อ นำเสนอเครื่องแต่งกายชาวอีสาน ทั้งในรูปแบบที่เป็นชุดพื้นเมืองประจำถิ่นไปจนถึงเสื้อผ้าแฟชั่นร่วมสมัย High Fashion ซึ่งสามารถสวมใส่ได้หลากหลายรูปแบบในโอกาสต่างๆ

4) ซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านภาคอีสาน ออกแบบนำเสนอแนวคิดประเพณีแห่ต้นดอกไม้ จ.เลย และมีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ สรงน้ำพระหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จ.หนองคาย องค์จำลอง เพื่อเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ไทย

► จุดให้บริการข่าวสารท่องเที่ยว: บ้านคำแก้ว เฮือนนางสาหร่าย 

► ไฮไลต์ห้ามพลาด :

1. โซนเล่าเรื่องอาหารอีสาน พบกับ นิทรรศการข้าว ที่พัฒนาต่อยอดนอกจากเป็นอาหารหลักแล้วยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มชุมชน เช่น สาโท เบียร์ และแซ่บกันต่อกับบูธจำหน่ายเมนูท้องถิ่นจากร้านอาหารชื่อดังกว่า 40 ร้าน อาทิ ร้านหมี่กระโทก ป้าเปลื้อง จ.นครราชสีมา หม่ำแม่คำตัน ภูพร้อมดาว ฟาร์มสเตย์.โคดำลำตะคอง สามชัยกรุ๊ป วิสาหกิจชุมชนยโสธร(ปลาส้ม) สามพี่น้องไก่ย่างเขาสวนกวาง แม่ลำดวนขอนแก่น ตำกระเทยสาเกต ไส้กรอกปลากาฬสินธุ์ แม่เสงี่ยมแจ่วฮ้อนจานเด็ดมหาสารคาม วิสาหกิจชุมชนบ้านโนนม่วง ร้านฟาร์มฮัก ชุมชนไทย้อบ้านดงยาง หมูยอ ตลาดราตรี มุกดาหาร ลาบเป็ดหนองแด แหนมพี่บัติ บึงกาฬ แมคเลย แมคคาเดเมีย  กุนเชียง 5 ดาวสุรินทร์ กุ้งจ่อมประโคนชัย เป็นต้น

2. โซนเล่าเรื่องสินค้าและผลิตภัณฑ์ภาคอีสาน 20 ร้าน และร่วมสนุกกับ กิจกรรม DIY นำเสนอความเป็น Fashion Creative (อีสานสร้างสรรค์) อาทิ ออตโตฟาร์ม สตูดิโอ จ.นครราชสีมา สาธิต & Workshop ดินปั่น โรงละครหมอลำหุ่นคณะเด็กเทวดา จ.มหาสารคาม - สาธิตการทำหุ่นกะติ๊บข้าว กระปุกออมสินนาคกี้ หิมพานต์ มาชเมลโล จ.บึงกาฬ วิสาหกิจชุมชนลุงป่วน หัตกรรมพื้นบ้านเครื่องเงินลายโบราณ จ.สุรินทร์ - สาธิตการตีประเกือม (การทำเครื่องประดับจากประเกือม) และถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคเชิงช่างเครื่องประดับเงินโบราณ

3. ม่วนคักไปกับ โซนลานกิจกรรม ยกรถแห่อีสานรำซิ่ง มาสร้างบรรยากาศความสนุกสนุกเกินร้อยสไตล์ถิ่นอีสาน และเพลิดเพลินไปกับการแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย

4.โซนลานภาพยนตร์อีสาน นำเสนอมุมมองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่าน Isan Soft Power (Film) ทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ ไทบ้าน ส้มปลาน้อย และเธอกับฉันกับฉันพร้อมร่วมชมการเสวนาทิศทางภาพยนตร์ไทยกับ 
อ.เหน่ง นิติพล รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วันที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 -15.00 น. และ สัมภาษณ์ผู้กำกับ 100 ล้าน 
คุณต้องเต ธิติ (ไทบ้าน) วันที่ 31 มีนาคม 2567 เวลา17.00 น.-18.00 น.

ททท. จับมือกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ในแง่มุมต่างๆ ของการท่องเที่ยว ได้แก่ 

- องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. 

- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 

- กระทรวงวัฒนธรรม 

- หอการค้าไทย 

- บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 

- ตำรวจท่องเที่ยว 

- สถาบันวิจัยดารา ศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT 

- บริษัท ปตท. จำกัด 

ห้าง ททท. 

ททท. จับมือสมาคม ชมรมธุรกิจท่องเที่ยว 8 หน่วยงาน จัดโซนนำเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวภายในประเทศ

1.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 

2.สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) 

3.สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) 

4.สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) 

5.สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) 

6.สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) 

7.สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) 

8.สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)

ระเบิดความสนุก ส่งต่อความมันส์ ส่งมอบประสบการณ์ความสุข ผ่านการแสดงดนตรี ศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัย การประกวดเทพีเทศกาลเที่ยวเมืองไทย การเดินแบบแฟชั่นโชว์ และกิจกรรมเล่นเกมส์แจกของรางวัลตลอด 5 วันจัดงาน

► การแสดงเชิงวัฒนธรรม 

- วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงเชิงวัฒนธรรม โนรา คณะศรีธน ธนนชัย เวลา 13.00-14.00 น. 

- วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงเชิงวัฒนธรรมประยุกต์ 5 ภาค จากคณะเพชรจรัสแสง

- วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงเชิงวัฒนธรรมลิเกคณะศรราม น้ำเพชร + ดำดง เวลา 12.00-14.00 น. ,การแสดงเชิงวัฒนธรรม แอน อรดี เวลา 17.00-18.00 น. และการแสดงทางวัฒนธรรม โขนและตลกหลวง เวลา 18.00-19.00 น.

- วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567 พบกับการแสดงเชิงวัฒนธรรม แตรวงย้อนยุค เวลา       14.00-15.00 น. 

►การแสดงของศิลปิน 

- วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงของศิลปิน FELLOW FELLOW เวลา 19.00-20.00 น. / ศิลปินวง 4EVE เวลา 20.00-21.00 น.

- วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงของศิลปิน สุนทราภรณ์ เวลา 14.00-15.00 น. แว่นใหญ่ เวลา 19.00-20.00 น. และศิลปินวง Tilly Birds เวลา 20.00-21.00 น.

- วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงของไรอัล กาจบัณฑิตเวลา 15.00-16.00 น. และต่าย อรทัย เวลา 18.00-19.00 น.

- วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 พบกับการแสดงของศิลปิน อะตอม ชนกันต์ เวลา 19.00-20.00 น. และวง INDIGO เวลา 20.00-21.00 น. 

- วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567 พบกับการแสดงของศิลปิน THE PALACE เวลา 18.00-19.00 น. และวง POLYCAT เวลา 20.00-21.00 น. 

► กิจกรรม Live และ Meet & Greet

- วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 พบกับกิจกรรม Meet & Greet: Amazing Thailand กับ ต่อ ธนาภพ

- วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 พบกับกิจกรรม Meet & Greet กลัฟ คณาวุฒิ เวลา 14.00-15.00 น.

นำเสนอแนวคิดเป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) นำเสนอข้อมูลโครงการ Shape Supply ด้านความยั่งยืนของ ททท. (STGs, โครงการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืนยั่งยืน STGs STAR, CF-Hotels, รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และเส้นทางท่องเที่ยว Low Carbon) โดยให้ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเดียวกันในรูปแบบ Low Carbon Exhibition มีการนำเทคโนโลยีมาเป็นสื่อการนำเสนอข้อมูล และดึงดูดความน่าสนใจ

►แลนด์มาร์ก :

ต้นไม้ Mindcraft ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด STGs สู่ Net Zero Carbon Tourism โดยใช้สื่อเทคโนโลยีสร้างความน่าสนใจและให้สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานเรื่องความยั่งยืน เพื่อลดขยะจากวัสดุและโครงสร้างจากการจัดงาน 

► ไฮไลต์ห้ามพลาด :

โซนเกมส์สอย STAR และ ถ่ายรูปกับต้นไม้ Mindcraft ยั่งยืน

ททท. ผลักดันแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนมาโดยตลอด ดังนั้น งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย จึงจัดเป็นกิจกรรม ลดโลกเลอะ Zero Waste to Landfills เพื่อเป้าหมายไม่ให้เกิดขยะหลงเหลือจากการจัดงาน ลดขยะสู่บ่อฝังกลบซึ่งจะสร้างมลพิษในภายหลัง โดยขยะทุกชนิดจะมีการนำไปทำกำจัดและใช้ประโยชน์อย่างถูกวิธี และเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงาน ผู้ประกอบการภายในงาน เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

“Zero Waste to Landfills” ลดการสร้างขยะนำสู่บ่อฝังกลบ นำสู่การปฏิบัติ คือ ลดการสร้างขยะ และ หากมีขยะ ขยะทุกชิ้นต้องมีการกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งจะไม่ทิ้งภาระให้กับสิ่งแวดล้อม 

-  ลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองในการตกแต่งภายในงาน โดยนำเทคโนโลยีมาใช้

-  แยกขยะที่เกิดขึ้นภายในงานตามเส้นทางการส่งต่อเพื่อใช้ประโยชน์ หรือ กำจัดอย่างชัดเจนโดยปลายทางของขยะ แบ่งเป็น  

►นำกลับมา Recycle ได้แก่ 

- ขวด PET และ HDPEขวดที่ทำจากวัสดุอื่น วัสดุที่ทำจากแก้ว ภาชนะอาหารที่เป็นโลหะ นำเข้าโครงการ Youเทิร์น เพื่อส่งรีไซเคิลที่โรงงาน Envicco โดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC 

-ขวด / กระป๋องเครื่องดื่มอลูมิเนียม และกระป๋องเหล็ก โดย RECYCOEXแพลตฟอร์มของไทยสำหรับรับซื้อและขายขยะรีไซเคิล เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี

- แก้วพลาสติก ฝาครอบแก้ว นำไปรีไซเคิล เพื่อกำจัดอย่างถูกวิธี โดย Cirplas ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการรีไซเคิลพลาสติกชนิด PLA 

- ขยะรีไซเคิลอื่น ๆ 

ลังกระดาษ  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์รับไปส่งต่อ

►นำไปทำปุ๋ย ได้แก่ วัสดุอินทรีย์ เป็นการเข้าโครงการ “ไม่เทรวม” ของกรุงเทพมหานคร 
เพื่อนำปุ๋ยที่ได้ใช้ในการบำรุงต้นไม้ของ กทม. 

- จากการทำอาหาร

- อาหารที่เหลือจากการรับประทาน 

- เครื่องดื่ม 

►นำไปเป็นเชื้อเพลิงในเตาเผาเพื่อเป็นพลังงาน ซึ่งเป็นการเผาที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลก โดย บริษัท N15Tecnologyได้แก่ 

- หลอด

- ถุงพลาสติก

- จาน ชาม ช้อน ส้อม กล่องอาหารทุกวัสดุ

- กล่อง Tetra Pak (กล่องนม กล่องน้ำผลไม้)

- ไม้แหลม

- สลิปใบเสร็จ

- และ ขยะอื่นๆ ที่ไม่เข้าข่ายการกำจัดด้วยวิธีอื่น

นอกจากนี้ยังมี จุดคัดแยกขยะ ทั้งหมด 20 จุด ประกอบด้วย 8 จุด ทั่วพื้นที่จัดงาน และ 12 จุด ตามโซนอาหารต่าง ๆ โดยแต่ละจุดจะมีป้ายกำกับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะและกำจัดขยะอย่างถูกต้อง ทั้งยังได้รับการสนับสนุนความร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ / กรุงเทพมหานคร / โครงการ Youเทิร์น by บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC รวมทั้ง บริษัท Cirplas และ บริษัท N15 Tecnology ที่มารับขยะถึงพื้นที่การจัดงาน

● งานแถลงข่าว “มหกรรมเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ประจำปี 2567 ในวันที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 16.00 – 18.00 น. ณ โซนเวทีกลาง ส่งสัญญาณเปิดประเพณีสงกรานต์ตลอดเดือนเมษายน 2567 ชวนคนไทยร่วมเฉลิมฉลอง “ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย”เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 
ของมนุษยชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากUNESCO โดย ททท. จัดเต็มนำขบวนแห่สงกรานต์ 6 ขบวน มาสร้างสีสันภายในงานฯ ซึ่งจะได้พบกับนางสงกรานต์และอัตลักษณ์ประเพณีสงกรานต์แต่ละท้องถิ่นแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

● กิจกรรมเล่นเกมส์แจกของรางวัลตลอดระยะเวลาการจัดงาน

- เอาใจสายมูด้วยไอเท็มกระเป๋าใบจิ๋ว “กระเป๋าคำมงคล” สวยเก๋มีสไตล์ ทั้งยังเติมกำลังใจแบบปังๆ ด้วย 3 คำมงคล ได้แก่ ร่ำรวย เศรษฐี โชคดี ที่ออกแบบมาใน 6 ลายอัตลักษณ์ท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาค ของมีจำนวนจำกัด! ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

- กิจกรรมแจก “เสื้อยืดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42” ไอเท็มคลาสสิกที่สายเที่ยวไทยต้องมี