วันหยุดยาว ๆ แบบนี้ ใครที่ยังว่าง ๆ อยู่กับบ้านไม่รู้จะออกไปไหนดี ลองมาที่นี่ที่เมืองอุดร โดยกิจกรรมที่เราจะพามาแนะนำวันนี้นั่นก็คือ การตามร่องรอยประวัติศาสตร์ของบ้านเชียง ว่าต้นกำเนิดมาจากไหน วิถีชีวิตที่ดำเนินไปเป็นอย่างไรและปัจจุบันนี้ยังคงมีชาวบ้านเชียงหลงเหลืออยู่ที่ใดบ้าง ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง แต่ขอแอบบอกไว้ตรงนี้ว่าไม่ได้พามาแค่ที่เดียวแต่จะมีที่ไหนอีกรอติดตามกันได้เลย ก่อนอื่นไปเริ่มกับที่แรกกัน
ศึกษาร่องรอยประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ บ้านเชียง

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ บ้านเชียง ก่อตั้งขึ้นหลังการเสด็จประพาสเยี่ยมชมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีส่วนจัดแสดงในอาคารกัลยาณิวัฒนาทั้งหมด 9 ส่วนด้วยกัน ซึ่งจะจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตความเป็นมาของบ้านเชียง โดยที่นี่ถือเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา จนเป็นที่ยอมรับจากคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก (Unesco) ให้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกลำดับที่ 359 ในปี พ.ศ. 2535 ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็น "แหล่งวัฒนธรรมบ้านเชียง" และนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่อยู่ : หมู่ที่ 13 ถนนสุทธิพงษ์ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี 41320
- การเดินทาง
รถส่วนตัว : อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 55 กิโลเมตร สามารถเดินทางตามเส้นทางหมายเลข 22 เส้นอุดรธานี-สกลนคร ตรงกิโลเมตรที่ 50 จะถึงปากทางเข้าบ้านปูลู จะเห็นป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์ทางด้านซ้ายมือ เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2225 อีกประมาณ 6 กิโลเมตร จะถึงพิพิธภัณฑ์
รถประจำทาง : จากสถานีขนส่งเก่าของจังหวัด (เยื้องกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล) สามารถโดยสารรถขนส่งประจำทาง อุดรธานี-บ้านดุง, อุดรธานี-สกลนคร, อุดรธานี-บึงกาฬ มายังสี่แยกหนองเม็กเพื่อต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือรถสามล้อรับจ้างเข้าสู่แหล่งโบราณคดี
- บริการอำนวยความสะดวก : ชำระด้วยเงินสด
รับจองล่วงหน้าเป็นหมู่คณะ
ที่จอดรถฟรี
เปิดจัดแสดงให้ความรู้และข้อมูลทางประวัติศาสตร์
- ข้อมูลติดต่อ
โทรศัพท์ : 042-235-040
Facebook : https://www.facebook.com/banchiang.museum
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์
ค่าเข้าชม : ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
หลังจากได้ความรู้และซึมซับจิตวิญญาณของชุมชนชาวบ้านเชียงกันแล้ว ต่อมาจะพาไปรู้จักกับสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและสันติภาพ ที่ถือเป็นหนึ่งจุดเช็คพอยท์ของอุดรธานี อย่างเป็ดเหลืองยักษ์ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์
ถ่ายรูปชมเป็ดเหลืองที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์


สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ได้ทำการเที่ยวชมฟรี โดยลักษณะเด่นของที่นี่ที่สังเกตได้จากสัญลักษณ์เป็ดยักษ์สีเหลืองสูง 8 เมตร ตั้งตระหง่านลอยอยู่กลางน้ำ ซึ่งเป็นตัวแทนของความสามัคคีและสันติภาพ นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาจึงนิยมมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าเป็ดยักษ์ตัวนี้ เพราะเหมือนเป็นการเช็คอินว่ามาถึงอุดรธานีแล้วจริง ๆ นอกจากนี้ยังเปิดให้มีการออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน สนามเด็กเล่น รวมทั้งร้านอาหารที่คอยไว้บริการที่นี่อีกด้วย
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่อยู่ : ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
- การเดินทาง
รถส่วนตัว :จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน)ถึงสระบุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 107 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ)ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น จนถึงอุดรธานี รวมระยะทางประมาณ 564 กิโลเมตร
รถประจำทาง :มีบริการรถโดยสารทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-อุดรธานีทุกวัน รถออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกำแพงเพชร (หมอชิต 2)มีรถออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 05.00 - 23.00 น. - บริการอำนวยความสะดวก : ชำระด้วยเงินสด
บริการห้องสุขาสาธารณะ
ร้านอาหาร
ที่จอดรถ 30 บาท
- ข้อมูลติดต่อ
โทรศัพท์ : 081-975-4350
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 04.00-20.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เรียกได้ว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยที่ไม่ต้องนอนแช่บนเตียงไปวัน ๆ แถมยังได้ความรู้และรูปถ่ายสวย ๆ ไปอวดให้ใครต่อใครได้อิจฉากันอีกด้วย