
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพกันมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก็มาถึงจังหวัดราชบุรีกันแล้ว จุดหมายปลายทางแรกของเราในทริปนี้ก็คือตลาดน้ำคลองลัดพลีหรืออีกชื่อ ตลาดน้ำวัดราฎเจริญธรรม (วัดสุน)ตลาดนี้อยู่ใกล้กับตลาดน้ำดำเนินสะดวกและตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ซึ่งเราก็จอดรถไว้ที่ลานตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้เลย เสียค่าจอด 20 บาท แล้วก็เดินชมวิถีชีวิตชาวบ้าน เดินช้อปปิ้งยาวๆกันเลยทีเดียว ตลาดน้ำคลองลัดพลีเป็นตลาดเช้า ส่วนอีก 2 ตลาดที่เหลือก็มาเดินเที่ยวกันได้ทั้งวันเลย




เมื่อเดินเล่นกันได้สักพักแล้ว ก็ขอไปเช็คอินนอนพักซักงีบที่ โรมแรม ไม้แก้วดำเนิน รีสอร์ทโรมแรมนี้จะอยู่ใกล้กับตลาดน้ำดำเนินสะดวกเลย ภายในจะตกแต่งสไตล์ไทยๆ มีต้นไม้ร่มรื่นให้สูดออกซิเจนให้เข้าปอดหน่อย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่สำคัญห้องพักของที่นี่ปลอดบุหรี่ทุกห้อง แต่จะมีโซนให้สูบบุหรี่ด้านนอก ทางโรมแรมมีกิจกรรมนิ่งเรือยนต์พาเที่ยวตลาดน้ำ หรือจะนั่งเรือพายเที่ยวแบบชิลๆ (ไม่อนุญาตให้พายเองเพราะเรือสัญจรเยอะ) ติดต่อสอบถามได้ทางเพจ Facebook : Maikaew Damnoen Resort




วันนี้เราจะเข้าเปลี่ยนบรรยากาศ เข้าไปเที่ยวที่ในตัวเมืองราชบุรีกัน โดยเริ่มจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีเป็นสถานที่จัดแสดงด้านประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์วิทยา โบราณวัตถุ ศิลปะพื้นบ้าน น่าจะถูกใจคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ สถานที่ตั้งอยู่ที่ศาลากลางหลังเก่า ริมแม่น้ำแม่กลอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน 9.00น.-16.00น. ปิดวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าเข้าชมคนไทย 20 บาท เด็กเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ 100 บาท สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 032-321513




หลังจากชมงานศิลป์กันไปแล้ว สำหรับมื้อกลางวันในวันนี้ เราจะขอฝากท้องไว้กับเมนูซิกเนเจอร์เมืองโอ่งอย่าง ก๋วยเตี๋ยวโอ่งราชบุรี เจดีย์หักที่มีให้เลือกหลายขนาด หลายราคา จะสั่งแบบชามเดี่ยวหรือ ชามยักษ์ก็มีให้เลือกตามใจชอบเลย เครื่องแน่นจัดเต็มอร่อยถูกปาก เปิดทุกวัน 8.00น.-17.00น. หยุดทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน


หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆกันมาแล้ว บอกเลยว่าแค่นี้ยังไม่พอ เพราะที่ราชบุรียังมีของอร่อยอีกเพียบ ซึ่งเราจะไปต่อกันที่ กาดวิถีชุมชมคูบัวตลาดคนเดินโบราณทีมีกลิ่นอายวิถีชุมชนของชาวไทยญวน ตลาดตั้งอยู่ที่วัดโขลงสุวรรณคีรี ภายในจะมีอาหารของกินของใช้พื้นบ้านมากมายโดยชาวบ้านท้องถิ่นนั่นเอง และยังมีเวทีการแสดงของชาวบ้าน ด้านหน้าเวทีจะมีลานขันโตกไว้ให้นั่งชมการแสดงกันสบายเลยทีเดียว ตลาดจะเปิดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ 9.00น.-19.00น. ส่วนการแสดงจะเริ่มประมาณ 16.00น.


ถัดจากตลาดเข้ามาด้านในจะมีเมืองโบราณบ้านคูบัว จะเห็นเป็นร่องรอยเมืองโบราณเก่าแก่สมัยเก่าก่อน ที่คาดว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นในยุคทวารวดี ที่เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน เวลา 8.00น.-16.30น.


สำหรับที่พักคืนที่ 2 ในวันนี้ ก็ขอเข้าโรงแรมเช็คอินอาบน้ำให้สดชื่นเตรียมลุยต่อ โรงแรมที่เราจะเข้าพักคืนนี้คือ โรมแรม ณ เวลา Navela Hotel
ซึ่งโรมแรมนี้บอกเลยว่าโลเคชั่นดีมากๆ เพราะอยู่ท่ามกลางทุ่งนาโดยรอบและยังเห็นวิวภูเขาอีกด้วย ตกแต่งด้วยสไตล์ไทยร่วมสมัยโดยใช้ลายผ้าซิ่นโบราณมาสอดแทรกตกแต่งลงในตัวโรงแรมได้อย่างลงตัว สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : โรงแรม ณ เวลา Navela Hotel


เตรียมลุยต่อช่วงเย็นนี้เอาใจสายกินอีกแล้ว ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของอร่อยไว้ที่นี่เลยทีเดียว ตลาดนี้ชื่อว่า ตลาดสนามหญ้าตั้งอยู่บริเวณหอนาฬิการิมแม่น้ำแม่กลอง ที่เรียกว่าสนามหญ้าเพราะว่าเมื่อก่อนเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของเมืองราชบุรี มีหญ้าปลูกเขียวขจีไปทั่ว จึงเรียกกันติดปากโดยทั่วกันว่า ตลาดสนามหญ้าเวลาเปิดตั้งแต่สายๆไปจนถึงดึกกันเลย




พอทานหวานแล้วก็หาที่เดินย่อยกันต่อดีกว่า เดินไปหน่อยก็จะมีอีกตลาดคือ ตลาดเก่าโคยกี๊เป็นตลาดถนนคนเดินริมแม่น้ำแม่กลอง ก็สมชื่อว่า โคยกี๊ ในภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่าริมคลอง หรือริมแม่น้ำ ภายในตลาดเต็มไปด้วยสินค้ามากมายตั้งแต่ของกิน ของที่ระลึก เสื้อผ้า และอีกมากมาย บรรยากาศเย็นสบายเดินไม่มีเบื่อเพราะติดแม่น้ำ เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ 18.00น.-22.00น.


วันนี้เราจะเปลี่ยนไปเที่ยวโซนภูเขากันบ้าง ถ้าพูดถึงภูเขาจังหวัดราชบุรีก็ต้องอำเภอสวนผึ้งที่ขึ้นชื่อว่าบรรยากาศดีมาก วันนี้เราจะมาแวะกันที่ สวนผึ้งไฮแลนด์มีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ มุมถ่ายรูปจะจัดเป็นโซนๆไว้เยอะมาก ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท และสามารถนำตั๋ว 50 บาทไปเป็นส่วนลดสินค้าได้อีกด้วย ส่วนเด็กที่ส่วนสูงไม่ถึง 120 ซม. เข้าฟรี


หลังจากถ่ายรูปเล่นกิจกรรมมาเหนื่อยแล้วคงจะหิว มีร้านๆ นึงใจกลางสวนผึ้งชื่อร้านว่า ครัวม่อนไข่ เรียกว่าเป็นร้านเด็ดร้านดังของที่นี่เลย ถ้าใครมาช่วงวันหยุดก็มีนักท่องเที่ยวนิยมมาแแวะชิมกันไม่ขาดสาย ซึ่งร้าาจะถึงก่อน Latoscana Resort ประมาณ 100 เมตร ร้านนี้อาหารเสิร์ฟเร็วมากและอร่อยทุกเมนูเลย เน้นอาหารไทยๆ หลังจากอิ่มจากอาหาร แล้วผ่อนคลายจากบรรยากาศของสวนผึ้งเพียงพอแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปกรุงเทพไปใช้ชีวิตคนเมืองกันต่อไป ปิดทริปราชบุรีไปแบบอิ่มใจและอิ่มท้อง กับการมาเยือนเมืองรองที่ครั้งเดียวไม่มีพอจริงๆ…

