เมืองชายแดนประตูสู่อินโดจีน ผีเสื้องามปางสีดา เย็นฉ่ำน้ำตก และถ้ำหินโบราณ

เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์นับพันปี มีเขตแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา กระทั่งได้รับสมญาว่าเป็น “ประตูสู่อินโดจีน” ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจในดินแดนตะวันออก โดยหลังจากขยับออกมาเป็นจังหวัดสระแก้วเต็มตัว เมืองชายแดนบูรพาแห่งนี้ถือเป็นจังหวัดใหญ่ลำดับต้นๆ ของภูมิภาค สภาพภูมิประเทศโอบล้อมด้วยเทือกเขา ป่าดงพงไพร และไร่นา เขียวขจีทั่วสารทิศ เปรียบดั่งแนวกำแพงเมืองอันเปี่ยมล้นด้วยตำนาน

ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองชายแดนบูรพาย่อมมีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งแฝงไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์ จนกลายมาเป็นแหล่งรวมอารยธรรมให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปยังยุคสมัยนั้นๆ รวมไปถึงสภาพภูมิประเทศ ซึ่งมีธรรมชาติเป็นหลักใหญ่ อาทิ “โรงเรียน กาสรกสิวิทย์” สัมผัสธรรมชาติตั้งแต่ตารางนิ้ว แรกจนสุดเขตพื้นที่ 110 ไร่ เพราะที่นี่คือ ศูนย์ฝึกกระบือในโครงการธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์กระบือ กิจกรรมขึ้นชื่อของที่นี่คงหนีไม่พ้นการเปิดคอร์ส ให้เกษตรกรกับเจ้าทุยคู่ใจได้มาฝึกทักษะ ในการทำนาเป็นระยะเวลา 10 วัน ก่อนกลับไปพัฒนาอาชีพตนเองโดยมีอาคารบ้านดินโปร่งสบายไว้สำหรับพักแรม หรือนักท่องเที่ยวทั่วไปหากใครอยากสัมผัสกลิ่นอายไร่นาก็ แวะเข้ามาเดินชมท้องทุ่งพร้อมๆ กับเจ้าทุย ตัวน้อยใหญ่ที่เดินขวักไขว่กันเป็นฝูงตามคันนาได้โดยไม่ต้องกลัวอันตราย นอกจากนี้ ยังมีคาเฟ่ริมคลองเลี้ยงปลา “ร้านกาแฟควายคะนอง” ให้หนีมาคลายร้อน ถ้าต้องการเติมพลังก็เพียงเดินอ้อมไปด้านหลังบ้านดิน จะพบกับ “ครัวแซ่บบ้านดิน” แสนร่มรื่น

ดื่มด่ำกับทุ่งนาธรรมชาติไปแล้วก็ถึงคราวหาเครื่องดื่มดับกระหาย จุดหมายอยู่ที่ “Coffee Hills Cafe' คาเฟ่ในเมืองใกล้ตลาดสระแก้ว นั่งทอดกายเพียงชั่วครู่เมนูขึ้นชื่อก็มาเสิร์ฟ “คอฟฟี่ฮิลล์ คลาสสิกเบลนด์” กาแฟเย็น รสชาตินุ่มนวลชวนผ่อนคลาย จิบไปพลางๆ ระหว่างรอ “สปาเกตตี้เบคอนพริกแห้ง” เส้น หนึบๆ เผ็ดอ่อนๆ รับประทานคู่ “ผักโขมอบชีส” ชีสเต็มคำกับผักโขมหอมๆ กลมกล่อมลงตัว ก่อนเติมความสดชื่นปิดท้ายด้วยขนมหวาน เกล็ดน้ำแข็งหน้าตาคล้ายบิงซูอย่าง “คากิโกริ ลิ้นจี่” ครบรสเปรี้ยวหวานแสนสดชื่น

นั่งชิมและชิลจนเต็มอิ่ม ยังเหลือสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวสระแก้วยกให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ นั่นคือ “ละลุ” ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติจากน้ำฝนที่กัดเซาะจนเกิดการยุบตัวและพังทลายของดิน ผสมกับถูกลมกัดกร่อนเป็นเวลานับพันปีจึงเกิดเป็นเนินดินรูปต่างๆ บ้างก็คล้ายกำแพงเมือง หน้าผา ปราสาท หรือแท่งสามเหลี่ยมเปรียบดั่งเจดีย์ สลับซับซ้อน กินเนื้อที่ไปกว่า 2,000 ไร่ สิ่งที่ท้าทายคือทุกๆ ปีรูปร่างของละลุจะเปลี่ยนแปลง ไปไม่ซ้ำเดิมตามแต่ลมฟ้าอากาศจะช่วยแต่งเติมเพิ่มลดชิ้นส่วนของชั้นดินให้เหล่านักท่องเที่ยวได้จินตนาการตาม เราแนะนำให้ไปเก็บบรรยากาศหรือภาพถ่ายในช่วงเย็นเพื่อจะได้เห็นทิวทัศน์เนินดินสีน้ำตาลตัดกับทุ่งนาเขียวขจีและท้องฟ้าสีแสดยามแดดร่มลมตก

สัมผัสดินแดนมหัศจรรย์กันอย่างเต็มตาได้เวลาไขปริศนาผ่านร่องรอยอารยธรรมแห่งอาณาจักรขอมโบราณ “ปราสาทสด๊กก๊อกธม ปราสาทเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ห่างจากประเทศ กัมพูชาเพียง 1 กิโลเมตร เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เข้าชมพร้อมหวนรำลึกถึงประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้าน ภายในมีต้นไม้คอยบันดาลความร่มเย็น ทั้งยังปกป้องแสงอาทิตย์อันร้อนแรง เลี้ยวเข้ามาเผชิญหน้ากับปราสาท พบคูคลองรูปตัว U โอบล้อมกำแพงรอบทิศ ย่างก้าวผ่านทางเดินขนาบข้างด้วยแท่งหินสลัก ทรงดอกบัวกว่า 80 ต้น สู่ปราสาทซึ่งสร้างจากหินทรายและศิลาแลงแกะสลักเป็นลวดลายอักษรบอกเล่าเรื่องราวของศาสนาฮินดู เมื่อลอดประตูกำแพงแก้วเข้ามาพลันเห็นปรางค์ประธาน บนยอดสูงบ่งบอกถึงจุดศูนย์กลางของปราสาทแห่งนี้ ปลดปล่อยความหลงใหลไปกับกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ที่ยังสถิตอยู่ไม่เสื่อมคลาย

หลังอิ่มเอมกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ก็ถึงเวลาเข้าป่าหาธรรมชาติกันต่อที่ “อุทยาน แห่งชาติปางสีดา” ศูนย์รวมผีเสื้อนานาพันธุ์แห่งภาคตะวันออก ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสลับกับห้วยน้ำลำธารรายล้อม จึงเป็นแหล่งอาศัยของเหล่าผีเสื้อกว่า 500 ชนิดซึ่งผลัดกันเริงระบำออกมาดูดกินแร่ธาตุ พร้อมท่วงท่าอันสง่างามจากโป่งแท้และโป่งเทียม ตั้งแต่บริเวณเชิงเขาไปยังยอดสูงสุดที่กิโลเมตรที่ 25 โดยช่วงเวลาที่สามารถดื่มด่ำกับฝูงผีเสื้อนับพันตัวได้เหมาะเจาะที่สุดคือตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึงช่วงก่อนเที่ยงวัน เนื่องจากมีแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า หรือหากใครอยากสัมผัสกับละอองน้ำเย็นสดชื่น “น้ำตกปางสีดา” ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย ด้วยน้ำตกแห่งนี้โอบล้อมด้วยธรรมชาติเขียวชอุ่มของเทือกเขาพนมดงรัก 

ปล่อยใจพลิ้วไหวไปกับท่วงทำนองการสะบัดปีกของผีเสื้อและสายน้ำกันแล้ว สถานที่ผ่อนคลายสุดท้ายของวันก่อนตะวันลับขอบฟ้ายังอยู่ในรั้วเดียวกันอย่าง “อ่างเก็บน้ำพระปรง เขื่อนกันภูเขาแห่งลำน้ำพระปรง ลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม โอบล้อมด้วยผืนป่า ทั้งยังมองเห็นทิวเขาอยู่ไกลสุดสายตา พร้อมพระอาทิตย์ทอแสงลงกระทบเกลียวคลื่นบนสายน้ำผสานเสียงลมโชยอ่อน เพียงนั่งมองฝูงนก หยอกล้อกันตามกิ่งไม้พลิ้วไหวแล้วให้ธรรมชาติเป็นผู้นำพาในช่วงเวลาแสงสุดท้ายของวัน

นอกจากน้ำตกงามและภูเขาสวย จังหวัดสระแก้วยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่มากมาย อาทิ ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง ที่วางตัวอยู่กลางหุบเขาในเขตอนุรักษ์ของชุมชน ตระการตาด้วยหินงอกหินย้อยสีขาวนวลสะอาดตา หรือหากใครนิยมกิจกรรมเรียกเหงื่อ หาดทรายแก้วที่อยู่ไม่ไกลกันก็มีกิจกรรมโรยตัวผ่านหน้าผา ให้ลองเรียกเหงื่อ แต่ถ้าชอบความชุ่มฉ่ำ “ถ้ำน้ำเขาศิวะ” ก็มีบริการพาตะลุยแอ่งน้ำใสภายในถ้ำกันแบบปลอดภัยให้ได้ลองวัดใจกันด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายบนดินแดนกว้างใหญ่ที่เราอยากชวนทุกคนไปร่วมเก็บเกี่ยวความทรงจำกับประวัติศาสตร์โบราณ สัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ที่สรรค์สร้างโดยฟ้าฝนบนทิวเขา และไร่นาแห่งอาณาจักรตะวันออกซึ่งยากจะลืมเลือน ลองเปิดใจให้กว้าง มาสูดอากาศให้เต็มปอดที่สุดแคว้นเมืองชายแดนบูรพาสักครั้ง อาจจะรัก “สระแก้ว” จนถอนตัวไม่ขึ้นก็เป็นได้