- อำลาสายฝน ต้อนรับลมหนาว ความสวยงามรอยต่อของฤดูกาล
- สัมผัสสายหมอก ออกไปรับชมความงามแห่งขุนเขา
- ตักบาตรเทโวและเทศกาลกินเจ เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมสุดยิ่งใหญ่
- ทิ้งท้ายสิ้นเดือน สีสันและความหลอนกับกิจกรรมวันฮาโลวีน
“ปลายฝนต้นหนาว” ถึงเวลาย่างก้าวเดินทางเข้าสู่เดือนตุลาคม เดือนรอยต่อระหว่างฤดูฝนกับฤดูหนาว และแน่นอนว่าอากาศในช่วงนี้ จะลดต่ำลงเกือบทุกภูมิภาคของประเทศไทย ถือว่าเป็นช่วงที่อากาศเริ่มมีความเย็นเข้ามา ปกคลุมกำลังดีไม่ร้อนมากและไม่หนาวจนเกินไป เหมาะแก่การขึ้นเขาสัมผัสทะเลหมอกแบบใกล้ชิด หรือจะดำน้ำดูปะการังดื่มด่ำชีวิตใต้ท้องทะเลก็ดีไม่แพ้กัน
เดือนตุลาคมนี้ยังคงมีฝนตกอยู่เล็กน้อย แต่สามารถเที่ยวได้ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ตั้งแต่เหนือสุดยันจรดทะเลใต้ เริ่มตั้งจากเส้นทางขับรถ ชมธรรมชาติป่าและเขา สัมผัสสายหมอกท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ ที่ดอยเสมอดาว-ดอยแม่จอก-ดอยภูคา-แม่จริม จังหวัดน่าน ขยับลงมาที่ฝั่งตะวันตกอย่างจังหวัดตาก สามารถไปเดินลุยป่าฝ่าดง ชมความงามของถ้ำหินย้อยที่สวยที่สุดหรือจะไปผ่อนคลายรับความชุ่มฉ่ำ ของสายน้ำก็สามารถไปได้ที่ถ้ำแม่อุสุ-น้ำตกพาเจริญ-ทีลอซู-เขาพระบาท-เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือก็ไม่น้อยหน้า เต็มอิ่มกับรสชาติของขุนเขาและวัฒนธรรมท้องถิ่นกันที่ ภูเรือ-เชียงคาน-ด่านซ้าย จังหวัดเลย
สำหรับการไปเที่ยวทะเลในช่วงเดือนนี้ก็ถือว่าสามารถวางแผนได้แล้วเพราะลมมรสุมเริ่มจะพัดผ่านไป ซึ่งทะเลตะวันออกอย่าง อ่าวไทยก็มีหลากหลายเกาะแก่งให้ไปสัมผัสกับกลิ่นของลมทะเล อย่าง เกาะกูด-เกาะขาม-เกาะกระดาด-เกาะช้าง-เกาะหมาก จังหวัดตราด หรือจะมุ่งหน้าลงสู่ทะเลใต้ไปเยี่ยมชมความงดงามของสิ่งมีชีวิตใต้ผืนท้องทะเลอย่าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคแล้วยังมีประเพณี-เทศกาล-วัฒนธรรม มากมาย ที่สามารถศึกษาและ รับชมได้ในเดือนนี้อย่างเช่น ช่วงออกพรรษาจะมี เทศกาลบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย ซึ่งสามารถรับชมความงดงามของลูกไฟ ที่จะพุ่งทะยานขึ้นจาก ลำน้ำโขงสู่ฟากฟ้า หรือประเพณีตักบาตรเทโว วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานีที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมากมายต่างมารอชมพระสงฆ์กว่า 500 รูป เดินลงมาจากยอดเขาสะแกกรังเพื่อรับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้งของพุทธศาสนิกชน นับเป็นภาพที่มีให้ชมได้เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยและในโลกนี้ก็ว่าได้
ส่วนอาหารการกินสำหรับเดือนตุลาคมนี้ต้องบอกว่าคงถูกใจสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ เพราะเทศกาลกลางเดือนนี้อย่าง เทศกาลกินเจ ที่จะจัดประมาณ 10 วัน ทุกปี เป็นการละเว้นและงดบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ ซึ่งสามารถหากินได้ตามร้านอาหารทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้บางจังหวัดยังมีการจัดขบวนแสดงแห่เทพเจ้าให้เห็นอย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือจังหวัดภูเก็ต หรือจะไปงานเทศกาลสารทไทย กล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชร ที่ขนผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์มาให้ได้ลองชิมลอง ใช้กันอย่างล้นหลาม
เรียกได้ว่าเดือนตุลาคมนี้ เป็นการบอกอำลาหน้าฝน ต้อนรับต้นเดือนแห่งลมหนาวได้เป็นอย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวมีหลากหลาย มากมายให้เลือกชมและเลือกไปทั่วทั้งประเทศไทย ซึ่งสถานที่บางแห่งสามารถรับชมได้เพียงในเดือนนี้เดือนเดียว จนกลายเป็นความสวยงาม
รอยต่อของฤดูกาล ซึ่งหากอ่านมาจนถึงตรงนี้บอกได้เลยว่าถึงเวลาที่จะต้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าออกไปรับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากเดือนตุลาคมกัน